บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนมกราคม 2565 มีเงินโอนเข้าแล้วตรวจสอบด่วน

01 ม.ค. 2565 | 16:00 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ม.ค. 2565 | 00:55 น.
48.7 k

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนมกราคม 2565 กรมบัญชีกลาง เติมเงินให้ผู้ถือบัตร จำนวน 13.5 ล้านราย ผู้ถือบัตรได้สิทธิอะไรบ้างดูด่วนที่นี่

เกาะติดโอนเงิน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนประจำเดือน มกราคม 2565 กรมบัญชีกลาง สังกัดกระทรวงการคลัง  เติมเงินให้ผู้ถือบัตรจำนวน 13.5 ล้านรายให้กับผู้ถือบัตร

 

 

โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เป็นต้นไป กรมบัญชีกลาง ยุติการจ่ายโครงการเพิ่มกำลังซื้อจำนวน 500 บาท ภายหลังจาก คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติจ่ายเพิ่มจำนวน 200 บาท ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 และได้อนุมัติเพิ่มอีก 300 บาท ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564  และ ธันวาคม 2564

 

ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยตัวเลขเบื้องต้นการใช้จ่ายตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 ปี 2564 ที่ได้สิ้นสุดโครงการทั้ง 4 โครงการ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โดยมีผู้ใช้สิทธิสะสมทั้ง 4 โครงการรวม 41.5 ล้านราย ยอดใช้จ่ายสะสมทั้งหมด 254,281.7 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ สำหรับ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมประมาณ 13.55 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 24,010 ล้านบาท

 

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

 

 

ตารางโอนเงินเดือนมกราคม 2565 มีรายละเอียดดังนี้

 

วันที่ 1 ม.ค. (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

  • วงเงินซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน
  • กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน
  • ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
  • ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

 

วันที่ 18 ม.ค. (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

  • เงินคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)

  • เงินคืนค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)

 

 

วันที่ 22 ม.ค. (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

  • เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน  ถึงเดือนกันยายน 2565 จาก จำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน ของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และ เบี้ยความพิการ จาก  เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน  สามารถกดเป็นเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยได้เช่นเดียวกัน.

 

ที่มา: กรมบัญชีกลาง