ยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 10 เดือนลด 5.1% สนพ.ชี้น้ำมันเครื่องบินมากสุด 42.9%

29 พ.ย. 2564 | 18:02 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ย. 2564 | 01:02 น.

สนพ.เผยยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 10 เดือนลด 5.1% ชี้น้ำมันเครื่องบินลดมากสุด 42.9% ดีเซลลด 5.9% เบนซินลด 9.3% น้ำมันก๊าดลดลง 5.7%

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 10 เดือนของปี 2564 (มกราคม-ตุลาคม) ว่า ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.1% โดยการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลง 42.9% กลุ่มเบนซินลดลง 9.3% กลุ่มดีเซลลดลง 5.9% น้ำมันก๊าดลดลง 5.7% อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 14.8% LPG เพิ่มขึ้น 8% สำหรับการใช้ NGV ลดลง 19.6%
ทั้งนี้ การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม-ตุลาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 28.40 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.3% เมื่อพิจารณาปริมาณการใช้กลุ่มแก๊สโซฮอล์พบว่าลดลงมาอยู่ที่ 27.75 ล้านลิตร/วัน การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ อี20 และแก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลงมาอยู่ที่ 6.79 ล้านลิตร/วัน 14.56 ล้านลิตร/วัน 5.65 ล้านลิตร/วัน และ 0.74 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ สำหรับการใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.66 ล้านลิตร/วัน

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือนตุลาคม 2564 พบว่า การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 28.56 ล้านลิตร/วัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (เดือนกันยายน 2564 อยู่ที่ 27.25 ล้านลิตร/วัน) (เพิ่ม 4.8%) โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของทุกชนิดน้ำมัน ยกเว้นน้ำมันเบนซิน เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (ลดจาก 29 จังหวัดเป็น23 จังหวัด) โดยบางกิจกรรมสามารถดำเนินการและขยายเวลาการให้บริการได้ (โรงภาพยนตร์ ร้านสะดวกซื้อ ศูนย์การค้า สนามกีฬาร้านอาหาร โรงมหรสพ เปิดได้ถึงเวลา 22.00 น.) การจำกัดการรวมกลุ่มไม่เกิน 50 คน และปรับมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานเป็น 23.00 – 03.00 น. (มีผลตั้งแต่ 16 ตุลาคม 2564) เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม-ตุลาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 60.85 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.9% สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้ลดลงมาอยู่ที่ 35.64 ล้านลิตร/วัน ลดลง 19% น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 21.60 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 1.05 ล้านลิตร/วัน

สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเฉพาะเดือนตุลาคม 2564 อยู่ที่ 58.74 ล้านลิตร/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2563 ลดลง 3.5% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ พบว่า ปริมาณการใช้ดีเซลหมุนเร็ว บี7 เพิ่มขึ้นจาก 37.04 ล้านลิตร/วัน มาอยู่ที่ 39.32 ล้านลิตร/วัน สวนทางกับการใช้ดีเซลหมุนเร็วธรรมดาที่ลดลงจาก 20.52 ล้านลิตร/วัน มาอยู่ที่ 12.46 ล้านลิตร/วัน 
โดยเป็นผลจากส่วนต่างราคา บี7 – บี10 ซึ่งลดลงจาก 3.00 บาท/ลิตร ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2564 เป็นไม่มีส่วนต่างราคาระหว่างวันที่ 11 - 31 ตุลาคม 2564 ตามสัดส่วนผสมไบโอดีเซลขั้นต่ำ 6% ของ บี7และบี10 สำหรับการใช้น้ำมันดีเซลเพื่อการผลิตไฟฟ้าอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ โดยอยู่ที่ 2.10 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากมีการใช้น้ำมันดีเซลทดแทนก๊าซธรรมชาติ

นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.36 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 42.9% เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 อย่างไรก็ตาม ภายหลัง ศบค. เห็นชอบการปรับลดวันกักตัวของชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 และต่อมาสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อนุญาตให้สายการบินขนส่งผู้โดยสารได้ตามความจุของเครื่องบิน ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 จึงส่งผลให้การใช้น้ำมัน Jet A1 ในเดือนตุลาคม 2564 เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2564 ซึ่งอยู่ที่ 4.04 ล้านลิตร/วัน มาอยู่ที่ 4.73 ล้านลิตร/วัน เพิ่ม 16.9% 
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 16.51 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 8% เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.39 ล้านกก./วัน เพิ่ม 21.3% และการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.84 ล้านกก./วัน เพิ่ม 11.5% สำหรับภาคครัวเรือนมีการใช้อยู่ที่ 5.59 ล้านกก./วัน เพิ่ม 1.6% อย่างไรก็ตาม การใช้ในภาคขนส่งลดลงมาอยู่ที่ 1.69 ล้านกก./วัน ลด 17.3% 
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.09 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.6% โดยเป็นผลจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ลดลงการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 885,018 บาร์เรล/วัน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 1% โดยการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 850,968 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57,049 ล้านบาท/เดือน เพิ่ม 51.2% สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) ลดลงมาอยู่ที่ 34,049 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 2,162 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 14.7% มูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม-ตุลาคม 2564 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ไบโอดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 199,457 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 14,280 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 71.9%