บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน คลัง โอนเงินค่าไฟ-ค่าน้ำ วันไหนเช็คที่นี่

06 พ.ย. 2564 | 05:05 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2564 | 01:27 น.
9.4 k

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน กรมบัญชีกลาง ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง โอนเงินค่าไฟ-ค่าน้ำ เดือนพ.ย.วันไหนเช็คที่นี่

เกาะติดโอนเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน หลังจาก คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. อนุมัติเงินกู้ให้กระทรวงการคลังรวม 54,506 ล้านบาท ช่วยเหลือ 4 โครงการเพื่อส่งเสริม มาตรการลดค่าครองชีพ  ดังนี้

 

1.อนุมัติ งบ 8,122.3764 ล้านบาท สำหรับ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าเพิ่มเติมอีกจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2564 รวมเป็น 500 บาท จำนวนไม่เกิน 13,537,294 คน

 

2.อนุมัติ งบ 1,383.8814 ล้านบาท สำหรับ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้า จำนวน 300 บาท/คน/เดือน ระยะเวลา 2 เดือน (เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564) รวมเป็น 500 บาท/คน ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม และรวมเป็น 1,800 บาท จำนวนไม่เกิน 2,306,469 คน

 

3.อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 42,000 ล้านบาท สำหรับคนละครึ่งเฟส 3 อีกจำนวน 1,500 บาทต่อคน จำนวนไม่เกิน 28 ล้านคน

 

4.อนุมัติ งบ 3,000 ล้านบาท สำหรับ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้

 

 

สำหรับ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางได้เติมเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนจำนวน 13.5 ล้านรายไปแล้ว

 

ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

  • วงเงินซื้อสินค้า 700/800 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 500 บาท)
  •  ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
  • ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

ล่าสุด ในวันที่ 18 พฤศจิกายน เป็นวันแรกที่ กรมบัญชีกลาง เติมเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนที่ใช้ค่าไฟ และ ค่าน้ำ ในอัตราที่กำหนด ดังนี้

 

ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

  • เงินคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)

  • เงินคืนค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง).

 

 

 

ส่วนลดค่าไฟ-ค่าน้ำ

ที่มา: กรมบัญชีกลาง