ทูตอินโดฯบุกสมุทรสาครจีบ"หอการค้า"เพิ่มซื้อขายอาหารทะเล

23 ก.ย. 2564 | 14:47 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ย. 2564 | 22:00 น.

ทูตอินโดนีเซียบุกสมุทรสาคร จับเข่าคุยประธานหอการค้าจังหวัด หวังขยายความสัมพันธ์ทางการค้าอาหารทะเล ต่างฝ่ายต้องการวัตถุดิบสัตว์น้ำเพื่อใช้แปรรูป ไทยสบช่องแจ้งขอผ่อนปรนการจับปลาในน่านน้ำอินโดนีเซีย ทูตฯรับจะนำไปเสนอรัฐบาลอินโดนีเซียต่อไป

 

 เปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ”  ว่า  เมื่อกลางเดือนก.ย.2564 นี้   นายระห์หมัต บูดีมัน (H.E. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย  ได้เดินทางมาเยี่ยมเยือนคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร    โดยมี นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมให้การต้อนรับ

การเดินทางมาเยือนครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และหารือแนวทางการค้า การลงทุน ในอุตสาหกรรมประมง สินค้าอาหารทะเล และอื่น ๆ กับภาคเอกชนของจังหวัดสมุทรสาคร  มีประเด็นสำคัญในการเจรจา คือ

ทูตอินโดฯบุกสมุทรสาครจีบ\"หอการค้า\"เพิ่มซื้อขายอาหารทะเล


1.เรื่องส่งเสริมความร่วมมือในการจัดหาวัตถุดิบ  โดยกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย  ต้องการหาวัตถุดิบเพื่อนำไปใช้ในการผลิต  โดยเฉพาะวัตถุดิบอาหารทะเล  เช่น  ปูม้า  และกุ้งล็อบสเตอร์  เป็นต้น
2.ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์  Supply Chain  ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง  เช่น  อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  ชิ้นส่วนรถยนต์  ยางรถยนต์  ฯลฯ

คณะกรรมการหอการค้า จังหวัดสมุทรสาคร ต้อนรับเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ที่เดินทางมากระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ
3.ทางประเทศอินโดนีเซีย   มีความประสงค์ที่จะส่งอาหารทะเลแช่แข็ง เข้ามาจำหน่ายให้ผู้ซื้อในจังหวัดสมุทรสาคร  แต่เนื่องจากภายในจังหวัดสมุทรสาคร  มีโรงงานผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มากเพียงพอ   จึงแจ้งกลับไปว่า  ทางจังหวัดสมุทรสาคร ต้องการวัตถุดิบอาหารทะเล  เพื่อนำมาใช้ในภาคการผลิตและใช้ในการแปรรูปอื่น ๆ  มากกว่า


4.ทางหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร    ได้หารือเรื่องการผ่อนปรนสำหรับเรือประมงไทย ในกรณีจะเข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย  

ทูตอินโดฯบุกสมุทรสาครจีบ\"หอการค้า\"เพิ่มซื้อขายอาหารทะเล

ซึ่งทางท่านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียฯ  ยังขอสงวนท่าที  แต่ก็รับปากที่จะนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อรัฐบาลของประเทศตนต่อไป


นายชาธิป  กล่าวอีกว่า  ขณะนี้ทางหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครได้จัดทีม  ที่จะเข้าไปทำงานร่วมกับทีมงานของสถานทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียต่อไป   เพื่อเจรจาและหาแนวทางในการส่งเริมธุรกิจและการค้าร่วมกันในอนาคต