“ค้าภายใน” เร่งตรวจสอบราคาขาย ATK บี้ผู้นำเข้าแจ้งต้นทุน-ราคาขายปลีก

06 ส.ค. 2564 | 16:47 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2564 | 00:05 น.

“จุรินทร์” สั่ง “ค้าภายใน” เร่งตรวจสอบราคาขายปลีก ATK  พร้อมจี้ผู้ผลิต-นำเข้า แจ้งข้อมูลต้นทุน-ราคาขายปลีก คาดนำขึ้นประกาศบนเว็บไซต์ สัปดาห์หน้า  พร้อมเร่งสปสช.เร่งนำเข้าATK เข้ามาโดยเร็ว เพื่อแจกฟรีให้กับประชาชน  ยันขณะนี้สินค้ายังมีเพียงพอต่อความต้องการ

 นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์สินค้าอุปโภค บริโภคในภาวะวิกฤตโควิด-19 ว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ติดตามอย่างใกล้ชิดรวมทั้งพาณิชย์จังหวัดให้เข้าไปตรวจสอบในแต่ละพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าขาดแคลน จนกระทบต่อประชาชน  ส่วนประเด็นการขาดแคลนแรงงานในภาคการผลิตจากการถูกปิดโรงงานผลิต ระบุ ได้ขอควาทร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้รับฟังความเห็นของภาคเอกชน และหากมีความจำเป็นต้องปิดโรงงานก็ขอให้ปิดเฉพาะในส่วนที่มีปัญหา เพราะหากปิดทั้งโรงงานอาจจะกระทบต่อการผลิต ทั้งปริมาณสินค้าในประเทศ และการส่งออกได้

“ค้าภายใน” เร่งตรวจสอบราคาขาย ATK  บี้ผู้นำเข้าแจ้งต้นทุน-ราคาขายปลีก
ส่วนกรณีที่เกี่ยวกับเรื่องการกำหนดราคาชุดตรวจโควิดว่า ขณะนี้ได้ขอให้ผู้ที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้า ATK และขึ้นทะเบียน อย.ให้ทำการแจ้งต้นทุนและแจ้งราคาจำหน่ายปลีกที่กรมการค้าภายในด้วยใช้ในการตรวจสอบราคา อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจติดตามรวมทั้งมีสายด่วน 1569 รับเรื่องหากพบว่ามีผู้จำหน่ายรายใดจำหน่ายในราคาแพงเกินสมควร เกิดความปั่นป่วน 

“ค้าภายใน” เร่งตรวจสอบราคาขาย ATK  บี้ผู้นำเข้าแจ้งต้นทุน-ราคาขายปลีก

 และหากพบว่ารายใดที่ขายแพงเกินสมควร กรมการค้าภายในก็จะใช้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มาตรา 29 เพื่อดำเนินคดีข้อหาค้ากำไรเกินควร ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ขอย้ำว่า ชุดตรวจโควิดที่ไม่ได้ขายในร้านขายยาและขายโดยเภสัชกร แต่มีตามแพลตฟอร์มต่างๆ ในตลาดมือ นั้นถือว่าผิดกฎหมาย เพราะตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาซึ่งหากพบเห็นว่ามีการจำหน่ายตามช่งทางดังกล่าวสามารถบังคับใช้กฎหมายในการจับกุมได้    ส่วนที่ชุดตรวจโควิดที่มีจำหน่ายในร้านขายยาโดยเภสัชกรนั้น ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากมีผู้นำเข้าหรือเอกชนรายใดขายเกินราคา ก็จะมีกฎหมายควบคุมอยู่ ทั้งนี้ชุดตรวจโควิด ถือว่าเป็นสินค้าควบคุมเพราะอยู่ในหมวดของอุปกรณ์ทางการแพทย์  ส่วนการกำหนดราคานั้น คงต้องรอให้ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย แจ้งต้นทุนและราคาขายปลีกมาที่กรมการค้าภายใน  โดยขณะนี้มี 25 บริษัทที่ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้ามี26ผลิตภัณฑ์ โดยมีนำเข้ามาแล้ว5-6 แบรนด์ ซึ่งมีจำหน่ายในร้านขายยา

“ค้าภายใน” เร่งตรวจสอบราคาขาย ATK  บี้ผู้นำเข้าแจ้งต้นทุน-ราคาขายปลีก

“กระทรวงพาณิชย์ต้องการเห็น สปสช. หรือองค์การเภสัช เร่งรัดนำเข้า ATK (Antigen Test Kit) หรือชุดตรวจโควิดด้วยตนเองได้ให้เข้ามาโดยเร็ว และทราบว่า สปสช. มีมตินำเข้ามาแล้ว 8,500,000 ชิ้น โดยขอให้นำเข้ามาเพื่อแจกฟรีให้กับประชาชน เพื่อไม่ให้เป็นภาระให้ประชาชนซื้อหาด้วยตนเองต่อไป”

“ค้าภายใน” เร่งตรวจสอบราคาขาย ATK  บี้ผู้นำเข้าแจ้งต้นทุน-ราคาขายปลีก

ด้านนายนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม  อธิบดีกรมการค้าภายใน  กล่าวว่า  ขณะนี้กรมได้ขอให้ผู้นำเข้าแจ้งต้นทุนในการผลิต และราคาขายปลีกมาแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถประกาศขึ้นหน้าเว็บไซต์กรมได้ในสัปดาห์หน้า   โดยราคาจำหน่ายในขณะนี้นั้นกรมได้ขอความร่วมมือเอกชนให้จำหน่ายในราคาที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ราคาที่เหมาะสมนั้น กรมจะต้องขอดูโครงสร้างต้นทุนจากเอกชนก่อนเพื่อกำหนดราคากลาง  เพราะชุดตรวจโควิดมีหลายยี่ห้อและคุณภาพต่างกัน ดังนั้นราคาจึงมีความแตกต่างกัน

“ค้าภายใน” เร่งตรวจสอบราคาขาย ATK  บี้ผู้นำเข้าแจ้งต้นทุน-ราคาขายปลีก

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบราคา พบว่า ราคาชุดตรวจโควิดหรือ ATK (Antigen Test Kit) มีราคาที่หลากหลายตั้งแต่150บาทไปจนถึง 400 บาทหรือมากกว่านั้นแล้วแต่ว่าผลิตที่ประเทศอะไร เช่น ชุดตรวจโควิดที่นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ กล่องละ 6,200บาท มี25ชุด ตกราคาชุดละ250บาท หรือชุดตรวจจากประเทศสหรัฐ กล่องละ5,000บาท มี20ชุด ตกชุดละ250บาทเป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับสถานการณ์ที่ความต้องการใช้มากเช่นนี้

 

“ค้าภายใน” เร่งตรวจสอบราคาขาย ATK  บี้ผู้นำเข้าแจ้งต้นทุน-ราคาขายปลีก

ขณะที่นายบุญฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ทั้งห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ โดยผู้ผลิตทุกรายยืนยัน กำลังการผลิตเพียงพอต่อการความต้องการในประเทศอย่างแน่นอน แม้จะได้รับผลกระทบจากปัญหาแรงงาน พร้อมกันนี้ ได้ขอให้ความร่วมมือห้างสรรพสินค้า หรือ โมเดินเทรดปรับปรุงระบบโลจิสติกส์เพื่อรองรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ พร้อมเพิ่มความถี่ในการเติมสินค้าบนชั้นวาง ระบุ ในบางช่วงเวลาสินค้าอาจหมดสต๊อก แต่ยืนยันสินค้าไม่ได้ขาดแคลนและขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกซื้อสินค้าไปกักตุน

“ค้าภายใน” เร่งตรวจสอบราคาขาย ATK  บี้ผู้นำเข้าแจ้งต้นทุน-ราคาขายปลีก