ยกการ์ดสู้โควิด-19เชียงใหม่เข้ม"CM-CHANA"ไล่ฟ้องผู้ฝ่าฝืน
เชียงใหม่เผยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ 17 ราย พบเป็นการนำเข้าจากต่างพื้นที่ ส่วนใหญ่มาจากกรุงเทพฯย้ำCM-CHANA เป็นมาตรการหลักในการติดตามควบคุม เปิดจุดSWAP 3 จุด ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่ทั้งทางอากาศ รถ ราง ไล่แจ้งความดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืน
วันที่ 5 ก.ค. 2564 ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 17 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 1เมษายน 2564 เป็น 4,209 ราย รักษาหายแล้ว 4,110 ราย ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 73 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลรัฐ 62 ราย โรงพยาบาลเอกชน 11 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 26 ราย
ปัจจัยเสี่ยงระยะหลังมานี้เป็นการนำเชื้อเข้ามาจากต่างจังหวัด และแพร่กระจายไปสู่ครอบครัว ชุมชน ซึ่งจากการเก็บข้อมูลของจังหวัดเชียงใหม่ เดือนมิถุนายน มีผู้ติดเชื้อ 82 ราย เป็นผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างจังหวัด 32 ราย คิดเป็นร้อยละ 39.02 ซึ่งมากที่สุดคือกรุงเทพมหานคร ส่วนเดือนกรกฎาคมนี้ ผ่านไปเพียงแค่ 5 วัน มีผู้ติดเชื้อแล้ว 40 ราย เป็นผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างจังหวัด 27 ราย คิดเป็นร้อยละ 67.50 โดยมากที่สุดคือกรุงเทพมหานครเช่นกัน ขณะที่การคัดกรองเชิงรุกเมื่อวานนี้ ได้มีการลงพื้นที่บ้านฉิมพลี ตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า และทำการตรวจ 99 ราย ทั้งหมดไม่พบเชื้อ ส่วนคลัสเตอร์ต่าง ๆ ยังคงเหลือคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวังอยู่ 2 คลัสเตอร์ ซึ่งไม่พบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว
ดร.ทรงยศ ย้ำว่า ผู้ที่ขับรถรับส่งสินค้า หากเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง 10 จังหวัด ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อกลับเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อได้ที่โรงพยาบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานเรื่องการเบิกจ่ายไปทาง สปสช. แล้ว สามารถเข้ารับการตรวจได้ฟรี และขอความร่วมมือกักตัวอย่างจริงจัง หากจะออกไปส่งของขอให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทุกครั้ง อย่างเคร่งครัด
นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการติดตามผู้ที่ลงทะเบียนในระบบ CM-CHANA อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นมาตรการหลักในการติดตามผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัด โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งจะมีทีม อสม. ในพื้นที่ลงไปตรวจสอบทุกวัน เช่นวานนี้ (4 ก.ค. 64) มีผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 579 ราย โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังทีมโควิดหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อออกตรวจสอบและกำกับดูแลให้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรค อาทิ การกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน
ทั้งนี้ หากพบว่าไม่มีการลงทะเบียนในระบบ CM-CHANA จะมีการดำเนินคดีตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ไม่ลงทะเบียนในระบบ CM-CHANA และนำไปสู่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามที่ได้ปรากฏในสื่อไปแล้วนั้น ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ติดเชื้อรายที่เป็นเน็ตไอดอลแล้ว ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 61/2564 เรื่องมาตรการควบคุมผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ สภ. ภูพิงค์ จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด
สำหรับการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดตั้งจุดตรวจคัดกรองโรคเฉพาะกิจ หรือ จุด Swab 3 จุด ได้แก่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งทีมอำเภอได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองประจำที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่
ผู้ที่เดินทางมาโดยรถไฟ กรณียังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานประจำจุดคัดกรองสถานีรถไฟ และเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลราชเวช โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และโรงพยาบาลเชียงใหม่ใกล้หมอ
ส่วนผู้ที่เดินทางมาโดยรถบัสและมาลงที่สถานีขนส่งอาเขต กรณียังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานประจำจุดคัดกรองเช่นกัน หากอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเทพปัญญา และโรงพยาบาลลานนา หากอยู่ต่างอำเภอ สามารถเลือกไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลประจำอำเภอได้
สำหรับผู้ที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว เมื่อถึงที่พักให้ทีมโควิดหมู่บ้านตรวจสอบ และเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางที่เข้ามาและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ยังได้ออกคำสั่งที่ 70 /2564 เรื่อง มาตรการควบคุมส่วนบุคคลในการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านและบริเวณต่อเนื่อง เนื่องจากการออกตรวจ ติดตามของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า มีประชาชนจำนวนมากยังฝ่าฝืนบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านและบริเวณต่อเนื่อง โดยอ้างว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ใช้บังคับกับผู้บริโภค ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงเห็นควรกำหนดมาตรการเพิ่มเติม ห้ามผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารหรือเครื่องดื่มและบริเวณต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 21.00 นาฬิกา เป็นต้นไป เพื่อให้การควบคุมและป้องกันโรคติดเชื้อโควิด - 19 เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ตั้งแต่วันนี้ (5 ก.ค. 64) จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้
วันเดียวกันที่สภ.แม่กา อ.ดอยเต่า นายนิติปกรณ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอดอยเต่า ฐานะผอ.ศปก.อ.ดอยเต่า สั่งการให้ นายพิชญ์พงศ์ วงษ์สุวรรณ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ที่ทำการปกรองอำเภอดอยเต่า เข้าพบ พนง.สอบสวน สภ.แม่กา อ.ดอยเต่า แจ้งความร้องทุกข์กับผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย ซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ กรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ 25 - 26 มิ.ย. 2564
โดยกล่าวหาว่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 61/2564 และประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ (ฉบับที่ 14) โดยไม่บันทึกข้อมูลในแอปพลิเคชัน "CM-CHANA" ,ไม่รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ ,ไม่เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 (swap) และไม่กักตัว (Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่กา รับแจ้งและจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อไป
