"กพร."ยันจำเป็นต้องใช้งบประมาณสู้คดีเหมืองทองอัครา

01 ก.ย. 2563 | 14:01 น.
888

กพร. ยืนยันความจำเป็นในการใช้งบประมาณต่อสู้ข้อพิพาทเหมืองทองคำ พร้อมยังเปิดช่องการเจรจายุติคดีเหมืองทอง

กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม เผยถึงความจำเป็นในการใช้งบประมาณเพื่อดำเนินการในกระบวนการอนุญาโตตุลาการเพื่อระงับข้อพิพาทกรณีเหมืองอัคราฯ ในขณะเดียวกันก็ยังเปิดโอกาสในการเจรจาเพื่อยุติคดีก่อนที่คณะอนุญาโตตุลาการจะมีคำตัดสิน

นายวิษณุ  ทับเที่ยง  อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เปิดเผยว่า กรณีข้อพิพาทเหมืองทองอัคราระหว่างประเทศไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด เกิดขึ้นจากการที่ภาครัฐตระหนักและให้ความสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อม สุขอนามัยและความปลอดภัยของประชาชนอย่างทันท่วงที เพื่อคุ้มครองประชาชนจากผลกระทบเฉพาะหน้า ดังจะเห็นได้ว่าในอดีตมีการร้องเรียนถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนโดยรอบพื้นที่ประกอบการเหมืองแร่ทองคำอย่างต่อเนื่องและยกระดับความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ การดำเนินการของภาครัฐจึงเป็นการดำเนินการตามมาตรฐานสากลที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ  โดยในส่วนของกระบวนการอนุญาโตตุลาการยังอยู่ในระหว่างการต่อสู้คดีอย่างรอบคอบ รัดกุม และเป็นเอกภาพ ซึ่งปัจจุบันคณะอนุญาโตตุลาการยังไม่มีคำตัดสินชี้ขาดแต่อย่างใด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ยันใช้ม.44 ระงับเหมืองอัคราเพื่อประโยชน์สาธารณะ

สุริยะ ชี้ยังมีเวลาหาข้อยุติกรณีเหมืองอัครา

สุริยะ คาดแก้ปัญหาเหมืองอัคราชัดเจนก่อนขึ้นศาล 18 พ.ย.

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ซึ่งมีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานคณะกรรมการ ยังคงเปิดโอกาสในการใช้แนวทางการเจรจาเพื่อหาข้อยุติที่ยอมรับร่วมกันก่อนคณะอนุญาโตตุลาการจะมีคำตัดสินชี้ขาด ทั้งนี้ ขอให้เชื่อมั่นว่า แนวทางการเจรจาของฝ่ายไทยจะอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ยึดถือประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นหลัก ไม่มีการเอื้อประโยชน์หรือเลือกปฏิบัติแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยคำนึงถึงดุลยภาพที่เป็นธรรมต่อประชาชน ชุมชนในพื้นที่ และผู้ประกอบการด้วย

\"กพร.\"ยันจำเป็นต้องใช้งบประมาณสู้คดีเหมืองทองอัครา

“สำหรับประเด็นเรื่องงบประมาณที่กำลังเป็นที่สนใจของสาธารณชนอยู่ในขณะนี้ ขอชี้แจงว่า จากการที่บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นให้ราชอาณาจักรไทยเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ภายใต้ความตกลง การค้าเสรีระหว่างไทย-ออสเตรเลีย หรือ TAFTA   กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการต่อสู้คดีในฐานะประเทศไทย โดยใช้เป็นค่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายในกระบวนการและขั้นตอนการต่อสู้คดีในขั้นอนุญาโตตุลาการ เพื่อรักษาผลประโยชน์ตามสิทธิอันพึงมีพึงได้ของประเทศไทยภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ” 

รายงานข่าว ระบุว่า งบประมาณที่ขอเพื่อใช้ในการต่อสู่คดีปี 62 เป็นจำนวน 60 ล้านบาท ,ปี 63 จำนวน 217 ล้านบาท และปี 64 ถูกปรับลดงบประมาณจาก 111 ล้านบาท เหลือ 12 ล้านบาทตามที่คณะอนุกรรมการเสนอ