TPIPP ทุ่มงบเพิ่มกำลังผลิตดันรายได้แตะ 1.3 หมื่นล้าน

30 มิ.ย. 2563 | 11:46 น.
อัปเดตล่าสุด :30 มิ.ย. 2563 | 18:51 น.

TPIPP ทุ่มงบกว่า 5.7 พันล้าน ประมูลโครงการใหม่ ตั้งเป้าดันกำลังผลิตติดตั้งเป็นกว่า 520 เมกะวัตต์ในปี 2567 จากปัจจุบันกำลังผลิต 440 เมกะวัตต์ พร้อมคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ แตะ 1.3 หมื่นล้านบาท

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ 13,000 ล้านบาท หลังจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปีนี้ทำรายได้แล้ว 2,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.33% ที่มีรายได้ 2,430 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 967 ล้านบาท ซึ่งหากไม่นับรวมกับการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทฯ จะมีผลกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 974 ล้านบาท 

และปัจจุบันยังในระหว่างการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ของโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 95%

ทั้งนี้ บริษัทฯพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็นกว่า 526 เมกกะวัตต์(MW) ภายในปี 2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ 440 เมกกะวัตต์ โดยภาครัฐมีแผนเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะประมาณ 40 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 500 เมกกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบVSPP ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งต่ำกว่า 10 MW จำนวน 30 โครงการ และโรงไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 10-30 MW อีก 5-10 โครงการ 

ทั้งนี้ คาดว่าภาครัฐจะเริ่มทยอยเปิดประมูลโรงไฟฟ้าทั้ง 2 กลุ่มในปีนี้ได้ประมาณ 10-12 โครงการ  โดยบริษัทฯ จะเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ VSPP และ SPP ดังกล่าว ซึ่งโรงไฟฟ้าเหล่านี้คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตั้งแต่ปี 2566

ปัจจุบันบริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ จึงมีความพร้อมเข้าร่วมประมูล โดยจะพิจารณาโครงการที่มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) เหมาะสมกับความเสี่ยงของโครงการ เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ดี

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังดำเนินการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Southern Seaboard) ในชื่อ “จะนะ เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ตามมติ กพต. และมติ ครม. ซึ่งต้องการให้พัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้เป็น Energy Complex ที่สะอาด ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมือนที่ บมจ. TPI เคยพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) มาแล้วสมัย นายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสุลานนท์และ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งโครงการนี้จะนำความเจริญมาสู่จังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นการสร้างงานและความมั่งคั่งให้ชาวไทย เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ