หนี้รัฐบาลท้องถิ่น 2 ล้านล้านเหรียญ-ทรัมป์ขึ้นภาษี ตัวแปรเศรษฐกิจจีนปี 68

05 ม.ค. 2568 | 16:25 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ม.ค. 2568 | 16:41 น.

ปี 2025 เป็นปีสุดท้ายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 14 ของจีน อัตราการขยายตัวเฉลี่ยทั้งแผนอยู่ที่ 5.2% (ปี 2021 ขยายตัว 8.4% ปี 2022 ขยายตัว 3% ปี 2023 ขยายตัว 5.2%) ปี 2024 ADB ประเมิน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ขยายตัว 4.8% และคาดว่าปี 2025 อยู่ที่ 4.5%

บทความโดย : รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ปรึกษาบริษัท อินเทลลิเจนท์ รีเสิร์ช คอนซัลแตนท์ (ไออาร์ซี) จำกัด

ขณะที่  BBVA Research, November 2024 ประเมินว่า ปี 2025 เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.1%  ถือว่าแผนฯ 14 ขยายตัว “ต่ำสุด” ตั้งแต่แผน 1 (1953-1957) (ยกเว้นแผน 2) เป็นต้นมา ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนขยายตัวเฉลี่ยแผนฯ ละ 6-7% ปี 2025

เศรษฐกิจจีนเจอกับปัญหาใหญ่ “2 เรื่อง” คือ หนี้ในหน่วยงานท้องถิ่น หรือรัฐบาลท้องถิ่นจีน  และนโยบายทรัมป์ 2.0 ประเด็นทั้ง 2 จะกระทบต่อตัวแปรเศรษฐกิจจีนทุกมิติ

ปี 2024 รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ครั้งใหญ่ คือ 1.กันยายน 2567 ธนาคารจีน (PBOC) กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ วงเงิน 1 ล้านล้านเหรียญ คิดเป็นสัดส่วน 6% ของGDP  มากสุดในประวัติศาสตร์จีน มากกว่าปี 2008 (วิกฤตการเงินโลกที่จีนกระตุ้นด้วยวงเงิน 5 แสนล้านเหรียญ) และ 2.พฤศจิกายน 2567 กระทรวงการคลังจีน กระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.4 ล้านล้านเหรียญ ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อแก้ปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่นจีน

ต้องมาดูกันว่า เงินที่กระตุ้นเศรษฐกิจจีนรวม เพียงพอพยุงเศรษฐกิจจีนให้ดีขึ้นหรือไม่ในปี 2025 และมูลค่าความเสียหายจากหนี้และทรัมป์ 2.0 จะมีเท่าไร จาก 1.หนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่มีมาตั้งแต่ปี 2021  อสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วน 30% ของ GDP จีน (IMF รายงาน GDP จีน ปี 2024 อยู่ที่ 18 ล้านล้านเหรียญ สหรัฐฯ 28 ล้านล้านเหรียญ)

หนี้รัฐบาลท้องถิ่น 2 ล้านล้านเหรียญ-ทรัมป์ขึ้นภาษี ตัวแปรเศรษฐกิจจีนปี 68

ปัญหาของอสังหาริมทรัพย์คือ “ปริมาณมากเกินความต้องการ (Oversupply)” เช่น คอนโดมิเนียมที่ขายไม่ออกอยู่ในเมืองชั้น (Tier) 3-5  ซึ่งเป็นระดับการพัฒนาเมืองจากกลางไปต่ำสุด ขายไม่ออกเป็นหลักล้านยูนิต ทำให้ภาคก่อสร้างซึม การผลิตเหล็ก ปูนซิเมนต์และวัสดุอื่น ๆ ลดลง หนึ้รวมทั้งหมดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์และสถาบันการเงิน คาดว่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญ (หนี้ 5-7 แสนล้านเหรียญ อยู่ในบริษัท Evergrade และ Country Garden)

2.หนี้หน่วยงานท้องถิ่น อยู่ที่ 80%  ของ GDP (หนี้บริษัทเอกชนอยู่ที่ 150% หนี้ครัวเรือน 40% และหนี้รัฐบาลกลางอยู่ที่ 35%)

 ด้วยนโยบายสร้างเมือง โครงสร้างพื้นฐาน และที่อยู่อาศัย กระทรวงการคลัง จีงได้ปรับกฎระเบียบให้ท้องถิ่นมีอำนาจใจการบริหารการเงิน ทั้งกู้ยืม  (ออกพันธบัตร และกู้จากธนาคารพาณิชย์) และหารายได้จากพัฒนาที่ดิน ทำให้การออกพันธบัตรหน่วยงานท้องถิ่นเพิ่มจาก 1.4 แสนล้านเหรียญ เป็น 7 แสนล้านเหรียญ

โดยร้อยละ 30 เป็นพันธบัตรโครงสร้างพื้นฐาน 20 เป็นการขนส่ง 10% เป็นที่อยู่อาศัย 9% เป็นเกษตรกรรม เรียกว่า “Land Finance” มี 3 กลุ่มที่เกียวข้องคือ หน่วยงานท้องถิ่น สถาบันการเงิน และบริษัทอสังหาริมทรัพย์

ตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา รายได้กับรายจ่ายหน่วยงานท้องถิ่นยิ่งห่างขึ้น ปี 2001 รายจ่ายสูงกว่ารายได้  15% ปี 2022 ห่างเพิ่มเป็น 30% หนี้ท้องถิ่นเพิ่มจาก 10% เป็น 80% ต่อ GDP  นาย Ting Lu นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร Nomura ของญี่ปุ่นประเมินว่าหนี้หน่วยงานท้องถิ่นจีน มีมูลค่าสูงถึง 7 - 8.5 ล้านล้านเหรียญ แต่กระทรวงการคลังจีนประเมินว่าหนี้อยู่ที่ 2 ล้านล้านเหรียญ

3.ทรัมป์จะเก็บภาษีสินค้าจีน บริษัททางการเงิน BBVA (Banco Bilbao Vizcaya Argentaria) ของสเปน ประเมินว่าหากทรัมป์เก็บภาษีสินค้าจีน 10-60% ทำให้สินค้าส่งออกจีนไปสหรัฐฯ ลดลง 12-15% มูลค่า 6-7 หมื่นล้านเหรียญ GDP ลดลงไป 0.9-1.1%

รวมมูลค่าเศรษฐกิจจีนจาก 2 ปัจจัยอยู่ที่ 8 ล้านล้านเหรียญ (อสังหาริมทรัพย์ 1 ล้านล้านเหรียญ) +  (หนี้หน่วยงานท้องถื่น 7 ล้านล้านเหรียญ) กับเงินกระตุ้นเศรษฐกิ 2.4 ล้านล้านเหรียญ  ดูท่าจะไม่เพียงพอในการเยียวยาเศรษฐกิจจีนปี 2025 ครับ