สภาพัฒน์ ห่วงสถานบันเทิงครบวงจร-กาสิโนถูกกฎหมาย ได้ไม่คุ้มเสีย

13 ม.ค. 2568 | 14:25 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2568 | 14:40 น.

สภาพัฒน์ ชี้ สถานบันเทิงครบวงจร ธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เกิดการลงทุน และการจ้างงาน แต่เตือนความเสี่ยงทางสังคม เสนอให้ศึกษาแนวทางพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบด้านลบ

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย โดยขั้นตอนต่อจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะตรวจและปรับปรุงร่างกฎหมายก่อนเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ภายใน 1-2 เดือน

ขณะที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้จัดทำความคิดเห็นประกอบการพิจารณาของครม.ด้วยว่า การเปิดสถานบันเทิงครบวงจรตามกิจกรรมที่กำหนดในบัญชีแนบท้ายร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะมีบทบาทในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ก่อให้เกิดการลงทุนและการจ้างงานในธุรกิจหลากหลายประเภท รวมทั้งการสร้างรายได้ให้ให้แก่ภาครัฐผ่านการนำเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี สศช. มีความเห็นเพิ่มเติม 4 ข้อ ดังนี้

1.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรควรมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสันทนาการสำหรับครอบครัวที่ประชาชนสามารถได้ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยการดำเนินธุรกิจที่สุ่มเสี่ยง อาทิ กาสิโน ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

2.เงินจากการพนันมีลักษณะเป็น "เงินโอน (Transfer)" จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเนื่องจากไม่ทำให้เกิดผลผลิต (Production) ดังนั้น ธุรกิจกาสิโนอาจจะไม่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมากเท่าที่มีการคาดการณ์ไว้

3.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรเน้นการพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่ในกิจกรรมตามบัญชีแนบท้ายร่างพ.ร.บ.นี้ เป็นลำดับแรก หากมีธุรกิจกาสิโนร่วมอยู่ด้วยจะต้องเป็นพื้นที่ส่วนน้อยของการพัฒนาทั้งโครงการ

4.ธุรกิจกาสิโน เป็นธุรกิจที่มีนัยต่อการพัฒนาประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะผลกระทบด้านลบต่อสังคม ประกอบกับหลายภาคส่วนยังคงเห็นต่างกับแนวทางการดำเนินการ 

ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงควรศึกษาผลประโยชน์และผลกระทบให้มีความชัดเจนและระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ รวมทั้งศึกษาทางเลือกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบทางสังคมน้อยกว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวมต่อไป