รัฐบาลเร่งคลอดมาตรการ “ปราบนอมินี” ผิดกฎหมาย นัดถกใหญ่ 9 ธ.ค.นี้

07 ธ.ค. 2567 | 11:12 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ธ.ค. 2567 | 11:17 น.

รมว.พาณิชย์ นัดประชุมใหญ่ บอร์ดแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติที่ผิดกฎหมาย 9 ธ.ค.นี้ เตรียมพร้อมออกมาตรการ “ปราบนอมินี” บังคับใช้กฎหมายเข้ม สร้างความเป็นธรรมผู้ประกอบการไทย

วันนี้ (7 ธันวาคม 2567) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 ธันวาคม นี้ จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ครั้งที่ 2/2567 เพื่อเร่งออกมาตรการที่จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้ห่วงใยในปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ในประเทศไทย โดยส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมทางออนไลน์ หลอกลวงภาคธุรกิจและประชาชน 

ดังนั้นจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

ล่าสุดที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ขึ้นมา 2 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว หรือ นอมินี และคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ โดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นายพิชัย กล่าวว่า ล่าสุด 2 หน่วยงาน คือ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 46 จุดทั่วประเทศ เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนิติบุคคล 442 บริษัท ทุนจดทะเบียนรวม 1,189 ล้านบาท ความเสียหายรวมกว่า 3,600 ล้านบาท

 

รัฐบาลเร่งคลอดมาตรการ “ปราบนอมินี” ผิดกฎหมาย นัดถกใหญ่ 9 ธ.ค.นี้

 

โดยผู้กระทำความผิดได้ร่วมกันจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่ออำพรางการประกอบธุรกิจต่างๆ อาทิ ร้านค้า ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ธุรกิจนำเที่ยว โกดัง/คลังสินค้า ร้านรับแลกเงินตราต่างประเทศ/เงินดิจิทัล และถือครองอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย และหลายนิติบุคคลไม่มีการดำเนินกิจการอยู่จริง และมีการจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อเปิดบัญชีม้านิติบุคคล รับโอนเงินจากแก๊งมิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ และการฟอกเงิน 

พร้อมกันนี้เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ CIB ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) เชื่อมต่อระบบข้อมูลนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลางของตำรวจสอบสวนกลาง (Big Data) 

ทั้งนี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลเพื่อมุ่งปราบปรามปัญหา ‘นอมินี’ และ ‘บัญชีม้านิติบุคคล’ ให้หมดสิ้นไปตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งการปฏิบัติการข้างต้นเป็นผลมาจากการลงนามฯ และร่วมกันดำเนินการจนเห็นผลเป็นรูปธรรม

รมว.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า ยังได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพิ่มความเข้มงวดด้านการจดทะเบียนธุรกิจอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลที่อาจจะเกิดขึ้นและปิดโอกาสไม่ให้มิจฉาชีพนำความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลไปใช้หลอกลวงประชาชน 

รวมถึงติดตามตรวจสอบนิติบุคคลที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงในการเป็นนอมินี และร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้อย่างทันท่วงที ลดปัญหาทางสังคม และลดการทำลายเศรษฐกิจในประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม