“สุริยะ” บินด่วน สั่งทางหลวงลงพื้นที่ "ถนนพระราม 2" เหตุคานปูนถล่ม
"สุริยะ" สั่ง "ทางหลวง" ลงพื้นที่เหตุคานปูนถล่ม "ถนนพระราม 2" พบผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เพียบ ตั้งคณะกรรมการสอบภายใน 15 วัน ถกกรมบัญชีกลางดึงมาตรการสมุดพกผู้รับเหมาคุมความปลอดภัย
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์คานปูนและเครน ถล่มในพื้นที่ก่อสร้างถึง พระราม 2 โดยตนได้รับรายงานจากกรมทางหลวงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันนี้(29 พย) เวลา 04.07 น. เกิดเหตุคานปูน (Segment) และเครน (Launching Gantry Crane)
ทั้งนี้เป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 1 ถล่ม
ขณะที่กำลังเชื่อมคานปูนเข้าด้วยกัน ส่งผลให้คนงานที่ปฏิบัติงานเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย เบื้องต้นได้ให้อธิบดีกรมทางหลวงและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ด่วนก่อนที่ตนจะเสร็จสิ้นประชุม ครม ในบ่ายวันนี้เวลา 17.30 น.ก็จะลงพื้นที่
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงสั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหาข้อสรุปภายใน 15 วัน และดำเนินการ ดังนี้
1.ตรวจสอบช่วยเหลือคนงานผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุอย่างเต็มที่
2.กำกับการควบคุมการรื้อย้ายโครงสร้างเเละเครื่องจักรที่เสียหายโดยวุฒิวิศวกรอาวุโสเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำ
3.ตรวจสอบความปลอดภัยให้มั่นใจก่อนเปิดการจราจร ขณะเดียวกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ ได้ให้กรมทางหลวงกำกับ/กำชับเพิ่มมาตรการการตรวจสอบการทำงานของผู้รับจ้างที่ต้องมี safety manager ของทั้งผู้รับจ้างและsafety manager ของหน่วยงานรัฐ เช่น
ทล.ทำการตรวจสอบร่วมกันก่อนที่จะอนุญาตให้ยกหรือถอดโครงสร้างชั่วคราวที่รับน้ำหนัก
นอกจากนี้ให้กรมทางหลวงเร่งรัดกรมบัญชีกลางให้นำมาตรการสมุดพกผู้รับเหมามาใช้ตรวจสอบผู้รับเหมา ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจถึงเวลาที่ต้องนำระบบมาตรฐานสากลเช่น ISO ด้านความปลอดภัยมาใช้ควบคุม
ทั้งนี้หากจำเป็นอาจต้องยกระดับชั้นผู้รับเหมาชั้นที่เหนือชั้นพิเศษมาใช้เพื่อทำงานยากและมี การทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อสาธารณชน
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากตัวเครนที่ค้างอยู่มีสภาพไม่ปลอดภัย บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด ผู้รับเหมา ได้ประสานเครนยกขนาด 400 ตัน 1 คัน และขนาด 200 ตัน 2 คัน รวม 3 คัน เพื่อยกเครนที่ค้างอยู่ออกคาดว่าเครนจะมาถึงในเวลา 13.00 น.
อย่างไรก็ตามนอกจากนั้นทางกรมทางหลวงได้จัดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เข้าประเมินความปลอดภัย ก่อนการดำเนินการ โดยมีนายธนสาร สิทธาภา แขวงทางหลวงสมุทรสาครเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์
นอกจากนี้ที่เกิดเหตุถนนพระราม 2 กม. 21+600 ได้ปิดการจราจรทางหลักขาเข้าและขาออกทุกช่องทาง การจราจรขาออก กทม. ใช้ทางคู่ขนานได้ 1 ช่องทาง และขาเข้า กทม. ใช้ทางคู่ขนานได้ 2 ช่องทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และตำรวจจราจร แนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง