นายประเสิรฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแอพทางรัฐ ไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ปรากฏว่ามีแอพปลอมลงทะเบียนระบาดจำนวน 6 แอพพลิเคชั่น และ ข่าวปลอมจำนวน 20 ข่าว ซึ่ง กระทรวงดีอี ได้สกัดปิดกั้นนำแอพพลิเคชั่นและข่าวปลอมลงจากระบบหมดแล้ว
“เราเฝ้าระวังในเรื่องนี้ตลอดเวลาและได้สกัดกั้นแอพฯและข่าวปลอมออกหมดแล้ว ซึ่งการเฝ้าระวังข้อมูลต่าง ๆ ได้มอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. และ DGA เฝ้าระวังในเรื่องนี้”
นายประเสริฐ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับข้อกังวลของธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องของสแกนใบหน้าขอยืนยันว่าการสแกนใบหน้าปลอดภัยไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ สำหรับกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เลื่อนการแถลงเกี่ยวกับการลงทะเบียนร้านค้านั้น รมว.ดีอี เปิดเผยว่า เป็นไปเพื่อไม่ให้ประชาชนสับสนกับการลงทะเบียนประชาชนทั่วไปเท่านั้น พร้อมย้ำว่า กระทรวงดีอีให้การสนับสนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเฉพาะด้านการลงทะเบียนและระบบไอทีบางส่วน เท่านั้น หน่วยงานเจ้าภาพหลักที่ดูแลเรื่องระบบภาพรวมของแอพทางรัฐ ยังคงเป็น สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) ซึ่งอยู่ภายใต้กำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ศูนย์บริการภาครัฐของประชาชน หรือ GCC 1111 หลังจากรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10000 หลังคิกออฟแคมเปญออกไปปรากฏว่ามีคู่สาย 30,000 คู่สาย มีพนักงานรับคู่สายทั้งหมด 500 คน
นายประเสริฐ เผยว่า กระทรวง ดีอี กระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย ร่วมเปิดจุดให้บริการช่วยเหลือประชาชน รับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เพิ่มเติม ณ ธนาคารกรุงไทย 900 สาขา ทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567
กระทรวง ดีอี ได้รับรายงานการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” โดยมีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 20.7 ล้านคน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2567) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ตโฟน ที่อาจประสบปัญหา และไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร หรือต้องการความช่วยเหลือในการลงทะเบียนฯ นอกเหนือจากการลงทะเบียนผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” กระทรวง ดีอี จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดสถานที่จุดให้บริการ (Walk – in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ดังนี้
1.ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
2.ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
3.ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
4.ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ
5.ธนาคารกรุงไทย จำนวน 900 แห่ง ทั่วประเทศ.