ม็อบกัญชา บุกทำเนียบ ร้องตั้งคกก.ร่วมศึกษาฯ ก่อนกําหนดรูปแบบคุม"กัญชา"

08 ก.ค. 2567 | 16:15 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ค. 2567 | 16:20 น.

"ประสิทธิ์ชัย หนูนวล" นำทัพมวลชนเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยกว่า 50 ชีวิตบุกทำเนียบ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องตั้งคณะกรรมการร่วมศึกษาวิจัยประเด็นกัญชาใน 4 มิติ ก่อนกําหนดรูปแบบการควบคุมกัญชา

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (8 กรกฏาคม 2567) เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย นำโดย นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการ พร้อมมวลชนกว่า 50 คน เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง ข้อเสนอต่อรัฐบาลกรณีความขัดแย้งการกําหนดสถานะกัญชาในประเทศไทยโดยมี นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือซึ่งเนื้อหาสาระสำคัญเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมกัญชาโดยกฎหมายพระราชบัญญัติกัญชาโดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

เรื่อง ข้อเสนอต่อรัฐบาลกรณีความขัดแย้งการกําหนดสถานะกัญชาในประเทศไทย 

ขอให้รัฐบาลควบคุมกัญชาโดยกฎหมายพระราชบัญญัติกัญชา (พ.ร.บ.กัญชา) โดยมีวิธีการดําเนินการเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งตามหลักสากล ดังนี้ 

ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันสองฝ่ายเพื่อศึกษาวิจัยประเด็นสําคัญ 4 มิติที่เกี่ยวกับกัญชา

1.กัญชามีผลร้ายในมิติสุขภาพมากกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่

2.กัญชาก่อผลร้ายในมิติทางสังคมในช่วงสองปีที่ผ่านมาร้ายแรงกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ 

3.คุณสมบัติในการดูแลสุขภาพและรักษาโรคของกัญชาดีกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ 

4.กัญชาก่อให้เกิดโรคทางจิตเวชและทําลายสมองเยาวชนตามที่รัฐกล่าวอ้างจริงหรือไม่

ม็อบกัญชา บุกทำเนียบ ร้องตั้งคกก.ร่วมศึกษาฯ ก่อนกําหนดรูปแบบคุม\"กัญชา\"

เมื่อศึกษาวิจัยจนตกผลึกร่วมกันทั้งสองฝ่ายครบทั้ง 4 ประเด็นพบแล้วให้นําผลการศึกษามาจัดสถานะกัญชาว่า ควรควบคุมโดยกฎหมายรูปแบบใด

1.หากการศึกษาทั้ง 4 มิติ ผลปรากฏว่า กัญชาไม่ได้ร้ายกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคจิตเวชหรือทําลายสมองเด็กก็ให้ควบคุมกัญชาโดยกฎหมายเฉพาะที่ เรียกว่า "พระราชบัญญัติกัญชา"

2.หากการศึกษาทั้ง 4 มิติพบว่า กัญชาร้ายแรงกว่าบุหรี่และเหล้าอีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทําให้เกิดโรคจิตเวชและทําลายสมองเยาวชนให้นํากัญชาไปควบคุมโดยกฎหมายยาเสพติด 

ม็อบกัญชา บุกทำเนียบ ร้องตั้งคกก.ร่วมศึกษาฯ ก่อนกําหนดรูปแบบคุม\"กัญชา\" หากคุณเศรษฐา ทวีสิน คิดว่า ตนเองกําลังทําหน้าที่นายกรัฐมนตรีก็จงยอมรับหลักการสากลที่รัฐพึงปฏิบัติในการคลี่คลายความขัดแย้ง คือ การตั้งกรรมการร่วมเพื่อศึกษาวิจัยข้อเท็จจริงก่อนการกําหนดรูปแบบ การควบคุมกัญชา อีกทั้งการศึกษาข้อเท็จจริงยังทําให้สังคมกระจ่างในข้อเท็จจริงว่า ที่ผ่านมาใครโกหกประชาชน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการนัดชุมนุมของเครือข่ายกัญชาหน้าทำเนียบในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 โดยก่อนหน้านี้ได้นัดรวมตัวกันหน้าเพื่อเรียกร้องให้ใช้ พ.ร.บ.กัญชา ในการกำกับและดูแลควบคุมกัญชามาแล้ว

กระทั่งเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ในการประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ครั้งที่ 32-8/2567 ซึ่งมี นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข มี นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการ อย. และกรรมการจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ม็อบกัญชา บุกทำเนียบ ร้องตั้งคกก.ร่วมศึกษาฯ ก่อนกําหนดรูปแบบคุม\"กัญชา\" รวมถึงนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แห่งตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และพ.ต.อ.ประเวศ วงษ์ประมุข ฯลฯ เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวมีการประชุมประเภทชื่อที่เป็นยาเสพติด ซึ่งมีการเสนอเรื่องกัญชา กลับเป็นยาเสพติด โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. ... ตามที่มีการเปิดแสดงความคิดเห็นเมื่อวันที่ 11-25 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาโดยรวมทั้งกัญชา กัญชง เพิ่มเข้ามาเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 จากของเดิมมีเห็ดขี้ควาย เป็นต้น

ข้อเสนอต่อรัฐบาลกรณีความขัดแย้งการกำหนดสถานะกัญชาในประเทศไทยของ เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย