นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจและการขาย บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า Mc Academy คือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ (E-learning Platform) ที่จะทำให้พนักงานรู้ประวัติของแม็คกรุ๊ป ตลอด 50 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน และด้วยความมุ่งมั่นที่จะ Disrupt Learning Journeys ของพนักงานแบบ Anytime Anywhere โดยนำดิจิทัลเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือในการพัฒนาบุคลากรให้เกิดการเรียนรู้ที่รวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการปฎิบัติงาน พร้อมขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กร แก้ปัญหาเรื่องพนักงานลาออกได้ ส่งผลให้องค์กรก้าวสู่การสร้างความเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดในมิติต่างๆ ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว และถึงแม้พนักงานจะไม่ได้ทำงานกับแม็คกรุ๊ปแล้วก็จะมีความรู้ติดตัว สามารถไปต่อยอดทำธุรกิจตัวเองในอนาคตได้
โดย Mc Academy ได้นำแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ คือระบบ LMS (Learning Management Systems) ที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ให้การฝึกอบรม และผู้รับการฝึกอบรม คือพนักงานแผนกส่วนงานต่างๆ สามารถเข้าถึงหลักสูตรและแหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อัปเดตความรู้ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเรียนรู้ได้จากทุกที่ ทุกเวลา ใช้งานผ่านอุปกรณ์ได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ตที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ทำให้ระบบการการเรียนรู้เป็นเรื่องง่าย เปิดกว้างให้ทั้งผู้ฝึกอบรมและพนักงานทำงานร่วมกัน
สำหรับสิ่งที่พนักงานได้คือ 1.รู้เกี่ยวกับโปรดักส์เป็นอย่างดี 2.สามารถให้บริการลูกค้าได้ เช่น สกิลการตัดขากางเกง 3.ลดการ Turnover Rate ของพนักงาน 4.ทำให้การขายดีขึ้น มีความน่าเชื่อถือ ปิดการขายได้เร็ว ซึ่งปัจจุบันแม็คกรุ๊ปฯ มีพนักงานขายมากกว่า 2,000 คน และมีร้านค้าปลีกเกือบ 600 จุดขายทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นแม่ฮ่องสอน โดยเข้ามาเรียนใน Mc Academy แล้วประมาณ 1,400 คน ในขณะที่กลุ่มลูกค้าจะมีอยู่ทุกระดับ สถิติที่บริษัทมีคือสัดส่วนลูกค้าผู้หญิง 60% เป็นผู้ชาย 40% แต่ผลิตภัณฑ์ของผู้ชายจะขายดีมากกว่า
"ความจำเร็จของ Mc Academy ที่เราอยากได้คือ พนักงานมีความรู้ในการขาย สามารถสร้างความยั่งยืนในความพึงพอใจของลูกค้าได้ ซึ่งตอนนี้ยอดขายหน้าร้าน 89% ยอดขายออนไลน์ 11% ยอดขายในกรุงเทพฯและปริมณฑลถือว่าเป็นตลาดใหญ่ ขนาดเท่ากันกับตลาดภาคอีสาน ยอดขายปิดปีงบประมาณปีนี้เกิน 4,000 ล้านบาทแน่นอน และแม็คยีนส์จะเริ่มพัฒนาศักยภาพพนักงานมากขึ้น ควบคู่ไปกับการเติบโตของบริษัท ใครมีความรู้และสามารถขายได้มากก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นมากขึ้น"
สำหรับปี 2567 จะได้เห็นการพัฒนาของแม็คยีนส์มากขึ้น ขณะที่ยอดขายยังมาแรง การขยายตัวของโปรดักส์ก็มีมากขึ้น รวมทั้งการขยายสาขาที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกพื้นที่ เบื้องต้นขั้นต่ำ 15 สาขา ตามหัวเมืองใหญ่ ซึ่งเทรนด์ของแม็คยีนส์ยังต้องควบคุมราคาและไม่ปรับเปลี่ยน ด้วยปณิธาน 1.อยากส่งมอบสินค้าคุณภาพดีในราคาที่เหมือนเดิม 2.คงยอดขายออนไลน์อันดับ 1 ของธุรกิจแฟชั่นในประเทศไทยเอาไว้ อย่างใน TikTok 3.แพคเกจจิ้งและการบริการขายออนไลน์ดี สินค้าถึงมือลูกค้าภายใน 2-3 วัน
นางสาวสุวรรณี จันทร์ศรีเกษร Head of Sales and Operations กล่าวว่า สำหรับ Mc Academy เปิดใช้งานแล้วตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 โดยสามารถอัพเดทข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว จากหลักสูตร 30 วัน ใช้เวลาเรียนรู้เพียง 9 วัน มีบทเรียนที่ให้ความรู้ไม่ใช่เพียงการขายยีนส์เท่านั้น แต่ต้องทำการบ้านเพื่อประเมินผลจนกว่าจะได้ใบรับรอง เริ่มอายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป หรืออายุช่วงวัยเรียนชั้น ม.3 เป็นต้นไป ซึ่งตอนนี้เริ่มการเรียนการสอนของ Mc Academy ที่ฝ่ายขายก่อน ในอนาคตจะปรับเรียนเพิ่มที่โรงงานผลิตด้วย
"ตอนนี้ลูกค้าในช้อปตามป๊ำน้ำมันกลุ่มลูกค้าจะต่างจากในห้างสรรพสินค้า เพราะตามป๊ำลูกค้าจะะใช้เวลาไม่นาน สะดวกจ่าย แต่ห้างใหญ่จะใช้เวลา การขายไม่รวดเร็วเท่าไหร่ ซึ่งลูกค้าตามหัวเมืองใหญ่ในปัจจุบันเริ่มมีอายุลดน้อยลง เป็นที่นิยมในเจน Z มากขึ้น ส่วนรูปแบบผลิตภัณฑ์จะเปลี่ยนไปตามเทรนด์"
ทั้งนี้ นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปีบัญชี 2567 (1 ก.ค. 2566 - 31 มี.ค. 2567) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 577 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 525 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 17.9% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับสูง ที่ระดับ 64.1% โดยในงวด 9 เดือนบริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า 3,178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 346 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
“รายได้และกำไรของบริษัทฯ ในงวด 9 เดือน เติบโตแข็งแกร่ง ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง ผลจากกำลังซื้อทั้งออฟไลน์ และการขยายสาขา รวมไปถึงการเติบโตของช่องทางออนไลน์”