ร้านอาหารญี่ปุ่น 2.5 หมื่นล้านฟื้น ‘มากุโระ’ ระดมทุนขยายสาขาเพิ่ม

26 พ.ค. 2567 | 05:30 น.

ชี้ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่น 2.5 หมื่นล้านฟื้นตัวแรง “มากุโระ กรุ๊ป” แนะปรับตัวรับเทรนด์คนรุ่นใหม่นิยมรับประทานคนเดียว มั่นใจเดินหน้าระดมทุนในตลาด mai ได้ในไตรมาส 2 พร้อมลงทุนขยายเพิ่ม 11 สาขารวด

นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 6.25% ของตลาดร้านอาหารทั้งหมดที่มีมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งกลับมาฟื้นตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปี 2565-2566 โดยมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 8% จากคนไทยที่นิยมทานอาหารญี่ปุ่น ด้วยรสชาติถูกปาก ประกอบกับมีเมนูหลากหลาย ซึ่งปัจจุบันพบว่าในประเทศไทยมีร้านอาหารญี่ปุ่นมากกว่า 5,000 ร้าน

ปัจจุบันตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยเผชิญกับการแข่งขันที่สูง ทั้งจากร้านอาหารญี่ปุ่นด้วยกันเอง และร้านอาหารประเภทอื่นๆ ส่งผลต่อธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็น 1. การตัดราคาเพื่อแย่งชิงลูกค้า การแข่งขันที่รุนแรงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้า หนึ่งในกลยุทธ์ที่พบบ่อย คือการนำเสนอราคาอาหารที่ต่ำลง สงครามราคานี้อาจส่งผลกระทบต่อกำไรของร้านอาหาร 2. ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ เช่น พัฒนาเมนูใหม่ นำเสนอเมนูที่หลากหลาย แปลกใหม่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งโปรโมชั่น ส่วนลด ของแถม หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ

ร้านอาหารญี่ปุ่น 2.5 หมื่นล้านฟื้น ‘มากุโระ’ ระดมทุนขยายสาขาเพิ่ม

“ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยมีศักยภาพในการเติบโต ทำให้มีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดลูกค้า และขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมากุโระ กรุ๊ป มีร้านอาหารในเครือทั้งหมด 3 แบรนด์ รวม 26 สาขา คือ 1. MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิ 14 สาขา 2. SSAMTHING TOGETHER ร้านปิ้งย่างเกาหลี 6 สาขา และ 3. HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกี้ยากี้หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ 6 สาขา”

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 34,060,200 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 27.03% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดในไตรมาส 2 นี้ ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ mai นี้ บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจ โดยจะเปิดสาขาเพิ่ม 11 สาขาในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงปรับปรุงสาขาเดิมและปรับปรุงครัวกลาง ติดตั้งและปรับปรุงระบบ IT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รองรับการขยายสาขาที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน และตั้งเป้าเพิ่มฐานสมาชิก 7 หมื่นคนจากปัจจุบันที่มีสมาชิกกว่า 1.5 แสนคน

ร้านอาหารญี่ปุ่น 2.5 หมื่นล้านฟื้น ‘มากุโระ’ ระดมทุนขยายสาขาเพิ่ม

นายเอกฤกษ์ กล่าวอีกว่า หนึ่งในเทรนด์ที่น่าจับตามองคือ การรับประทานอาหารคนเดียว ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง โดยพบว่า ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับเวลาส่วนตัวมากขึ้น ต้องการดื่มด่ำกับรสชาติอาหาร จึงต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป เมนูอาหารแปลกใหม่ กลายเป็นจุดดึงดูดลูกค้า ร้านอาหารหลายแห่งนำเสนอเมนูฟิวชั่นที่ผสมผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นกับอาหารชาติอื่นๆ หรือแม้แต่เมนูพิเศษสำหรับทานคนเดียว

ขณะที่บรรยากาศร้าน ต้องถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทานอาหารคนเดียว มีเคาน์เตอร์บาร์ให้ลูกค้าสามารถนั่งทานอาหาร ที่สำคัญต้องมีบริการที่สะดวกสบาย รวดเร็ว ตอบคำถามและแนะนำเมนูอย่างมืออาชีพ โดยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ลูกค้าสามารถสั่งอาหาร ชำระเงิน ผ่านระบบออนไลน์ ด้วยการปรับตัวเหล่านี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ รักษาฐานลูกค้าเก่า และประสบความสำเร็จในยุคที่ผู้บริโภคโหยหาประสบการณ์การทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร

 สำหรับผลประกอบการ มากุโระ กรุ๊ปในปี 2565 มีรายได้รวม 665 ล้านบาท กำไรสุทธิ 72 ล้านบาทในปี 2566 รายได้รวม 1,045 ล้านบาท กำไรสุทธิ 31 ล้านบาท มาจากร้านอาหารญี่ปุ่น MAGURO 61% ร้านอาหารชาบูและสุกี้ยากี้ HITORI SHABU 18% และร้านปิ้งย่างเกาหลี SSAMTHING TOGETHER 19%

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,995 วันที่ 26 - 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2567