วันเกษตรกร 2567 “ภูมิธรรม” นโยบายรัฐบาลเพิ่มรายได้เกษตรกรเป็น 3 เท่าใน 4 ปี

09 พ.ค. 2567 | 08:37 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2567 | 08:43 น.

วันเกษตรกร 2567 “ภูมิธรรม” ย้ำนโยบายรัฐบาลมุ่งเน้นเพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่าใน 4 ปี ด้วยหลักการตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพื่อเร่งผลักดันให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็ง

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยเนื่องในวันเกษตรกร ประจำปี 2567 ส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังพี่น้องเกษตรกรทุกคน ย้ำนโยบายรัฐบาลมุ่งเน้นเพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่าใน 4 ปี ด้วยหลักการตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพื่อเร่งผลักดันให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็ง นำพาพี่น้องเกษตรกรไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง


 

รองนายกฯ กล่าวว่า เนื่องใน “วันเกษตรกร” ประจำปีพุทธศักราช 2567 นับเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้องเกษตรกร ในนามของรัฐบาลจึงขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังพี่น้องเกษตรกรทุกท่าน ที่อุทิศแรงกายและแรงใจเป็นเสาหลักในภาคการผลิตที่สำคัญ ช่วยให้สังคมไทยมีความมั่นคงทางอาหารที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์ 

รองนายกฯ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาบทบาทของเกษตรกรไทย มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ กล่าวคือ เกษตรกรเป็นกลไกสำคัญต่อการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศ และยังเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับประชาชนจำนวนมาก นอกจากนั้น วิถีชีวิตของเกษตรกรไทย ยังเชื่อมโยงกับวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งนับเป็น Soft Power ที่สำคัญ แม้ว่าในปัจจุบันมีสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการมีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสังคมดิจิทัล ส่งผลทำให้เราได้เห็นลูกหลานเกษตรกรที่มีความรู้และประสบการณ์ตามวิถีเศรษฐกิจโลกสมัยใหม่ กลับไปพัฒนาต่อยอดงานเกษตรกรรมของคนรุ่นพ่อแม่ให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างมีศักยภาพ
นายภูมิธรรม เวชยชัย

 

รัฐบาลมีนโยบายมุ่งเน้นที่จะเพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่าใน 4 ปี ด้วยหลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยมีแนวทางสำคัญเพื่อเร่งผลักดันให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็ง อาทิ การยกระดับสินค้าเกษตร เสริมศักยภาพเกษตรกร เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง การจัดการทรัพยากรทางการเกษตรให้สอดคล้องกับระเบียบการค้าโลกใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ส่งเสริมให้ทำการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยหลักการ ESG และ Carbon Credit รวมทั้ง การปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าภาคการเกษตรที่ผิดกฎหมาย และการอำนวยความสะดวกด้านการเกษตร นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการนโยบายที่สำคัญ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้พี่น้องเกษตรกร ด้วยการจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกรมีสิทธิในที่ดิน สร้างโอกาสและความมั่นคงในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม

“ขอขอบคุณพี่น้องเกษตรกรและประชาชนผู้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และขอให้เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานของรัฐบาล จะนำพาพี่น้องเกษตรกรไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง เนื่องในโอกาส “วันเกษตรกร” นี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือ ตลอดจนพระบารมีของพระสยามเทวาธิราช พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดดลบันดาลให้พี่น้องเกษตรกรและประชาชนทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ และก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป” รองนายกฯ กล่าว.