สภาเกษตรกรฯ โชว์ผลงาน 6 เดือน "3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ”ผลงานอื้อ

09 เม.ย. 2567 | 14:25 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2567 | 14:25 น.

“นัยฤทธิ์ จำเล” ประธานสภาเกษตรกรฯ โชว์ผลงานรอบ 6 เดือน ดำเนินนโยบาย "3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ” ปั้นเกษตรกรยุคใหม่ เร็วรุก สนุกกับงาน คนสำราญ งานสำเร็จ เพื่อนำสภาเกษตรกรก้าวย่างอย่างมั่นใจ นำพาเกษตรกรไทย สู่ความมั่งคั่ง

วันที่ 9 เมษายน 25สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ หรือ สกช. ได้จัดโครงการสัมมนาสรุปผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน และติดตามความคืบหน้างานตามภารกิจของสภาเกษตรกรแห่งชาติและจัดกิจกรรมแถลงผลการดำเนินงานของสภาเกษตรกรแห่งชาติ รอบ 6 เดือน “สภาเกษตรกรก้าวย่างอย่างมั่นใจ นำพาเกษตรกรไทยสู่ความมั่งคั่ง” 

สภาเกษตรกรฯ โชว์ผลงาน 6 เดือน \"3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ”ผลงานอื้อ

วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและติดตามความคืบหน้าภารกิจ รวมถึงการชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานตามแผนงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และเพื่อเป็นการเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร บทบาทอำนาจหน้าที่ และผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับเกษตรกร องค์กรเกษตรกร หน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสภาเกษตรกรแห่งชาติ ในการเป็นสถาบันแกนหลักในการประสานการพัฒนาภาคเกษตรกรรมของประเทศ กระตุ้นให้เกิดความสนใจ เกิดกระแสสนับสนุน และเกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยได้จัดผ่านกิจกรรมต่าง ๆ

สภาเกษตรกรฯ โชว์ผลงาน 6 เดือน \"3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ”ผลงานอื้อ

นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวแถลงผลการดำเนินงาน สรุปใจความสำคัญดังนี้ นับตั้งแต่ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ดำเนินนโยบาย "3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ” โดย “3 เปลี่ยน” ได้แก่ 1.เปลี่ยนสภาของเกษตรกร โดยเกษตรกร เพื่อเกษตรกร อย่างแท้จริง ทั้งหลักคิด หลักการและหลักปฏิบัติ 2.เปลี่ยนข้อบังคับและระเบียบที่เป็นอุปสรรค ให้สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. สภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 และ 3.เปลี่ยนรูปแบบและวิธีดำเนินงานของสภาเกษตรกรให้เร็วรุก สนุกกับงาน คนสำราญ งานสำเร็จ โดยวิธีร่วมคิด ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ ร่วมรับประโยชน์

นโยบาย “3 สร้าง” ได้แก่ 1.สร้างทีมงานบริหาร ทีมงานขับเคลื่อนงาน พัฒนาบุคลากรสู่ความเป็นมืออาชีพ และเข้มแข็งอย่างเร่งด่วน 2.สร้างเครือข่ายเกษตรกรให้เข้มแข็งเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนทุกระดับทุกมิติให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพและบูรณาการและ 3.สร้างต้นทุนองค์กรให้เป็นที่เชื่อถือและยอมรับของมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกับรัฐบาล 

นโยบาย “3 ปรับ” ได้แก่ 1.ปรับรูปแบบและโครงสร้างคณะกรรมการใหม่ ให้มีบทบาทที่ชัดเจนตลอดห่วงโซ่อุปทานของภาคการเกษตรเพื่อการทำหน้าที่บูรณาการการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตร ปรับลดจาก 15 คณะ เหลือ 6 คณะ 2.ปรับรูปแบบและปรับแนวคิด ทัศนคติ ของสมาชิกและบุคลากรให้เป็นหนึ่งเดียวรู้รักสามัคคี มองเป้าหมายองค์กรเป็นตัว 3.ปรับรูปแบบและโครงสร้างสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

สภาเกษตรกรฯ โชว์ผลงาน 6 เดือน \"3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ”ผลงานอื้อ

สำหรับผลการดำเนินงานตามภารกิจ ดังนี้ 1.การประชุมสภาเกษตรกรแห่งชาติสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ดำเนินการจัดประชุมสภาเกษตรกรแห่งชาติไปแล้ว 4 ครั้ง มีการนำเสนอและหารือเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของเกษตรกร และผ่านการพิจารณาของสภาเกษตรกรแห่งชาติ จำนวน 17 เรื่อง และข้อเสนอเชิงนโยบาย จำนวน  6  เรื่อง ประกอบด้วย  1.ข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาปศุสัตว์ สู่ความยั่งยืน  2.ข้อเสนอเชิงนโยบายแนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน ของสภาเกษตรกรจังหวัดกลุ่มภาคกลาง

3.ข้อเสนอการจัดตั้งกองทุนชาวสวนทุเรียน และการผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติกองทุนทุเรียนไทย 4.ข้อเสนอเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาเกษตรกรไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 5.ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อกำหนดแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาการทำประมงพื้นบ้าน 6.ข้อเสนอเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาราคาปลากะพงตกต่ำ

 

สภาเกษตรกรฯ โชว์ผลงาน 6 เดือน \"3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ”ผลงานอื้อ

2. การจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมและการสร้างเครือข่ายเกษตรกร  ได้แก่ 1.จัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมฉบับที่ 2 โดยมุ่งเน้น 1 หลัก - 3 ทาง - 3 พัฒนา - 11 แนวทาง 2. สร้างเครือข่ายเกษตรกร 75,036 หมู่บ้าน เพื่อเป็นกลไกในการรับฟังความคิดเห็นสะท้อนปัญหา เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาการเกษตร ให้เป็นรูปธรรมและนำความสุขมาสู่เกษตรกร 3. การบูรณาการกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

สภาเกษตรกรแห่งชาตินอกจากจะเสนอแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเกษตรกรรมในรูปแบบข้อเสนอเชิงนโยบายแล้ว ยังได้บูรณาการกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น   การแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม, การแก้ไขปัญหาปลาหมอสีคางดำ สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้สำรวจปัญหาและการแพร่ขยายระบาดของปลาหมอสีคางดำในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้ง 77 จังหวัด โดยการประสานงานกับสำนักงานประมงพื้นที่ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาราคาปลากะพงตกต่ำ กรมประมงเสนอการใช้มาตรการควบคุมการนำเข้  ปลากะพงขาวแช่เย็นที่นำเข้าจากมาเลเซีย  และการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนพื้นที่ป่าไม้กับพื้นที่ ส.ป.ก.จังหวัดสระบุรี เป็นต้น

สภาเกษตรกรฯ โชว์ผลงาน 6 เดือน \"3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ”ผลงานอื้อ

นอกจากนี้ยังมีการดำเนินงานกิจกรรมสาธารณะ  โดยสภาเกษตรกรแห่งชาติได้ดำเนินงานกิจกรรมสาธารณะ และการช่วยเหลือด้านต่างๆแก่สังคมและเกษตรกรที่ประสบกับปัญหาจากภัยธรรมชาติ ดังนี้   โครงการจิตอาสาพัฒนาสาธารณประโยชน์ "เราทำความดีด้วยหัวใจ" เนื่องในโอกาสวันคล้าย   วันสถาปนาสภาเกษตรกรแห่งชาติ ครบรอบ 13 ปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

พิธีรวมใจถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดทั่วประเทศ และการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมอบข้าวสารให้จังหวัดละ 550 กระสอบ และถุงยังชีพ 120 ชุด ตลอดจน การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในภาคอีสาน (ร้อยเอ็ด ยโสธร) โดยร่วมกับชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด และชมรมรถบรรทุกฟางก้อน สนับสนุนฟางอัดก้อน จำนวน 6,000 ก้อน และน้ำดื่ม 10,000 ขวด

นายนัยฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ สภาเกษตรกรแห่งชาติหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของเกษตรกร และความร่วมมือของทุกภาคส่วน จะทำให้เกษตรกรรมไทยเติบโต ก้าวหน้า ผลิตอาหารปลอดภัยสู่บริโภคทั้งภายในประเทศ และส่งออกให้กับคนทั่วโลกได้มากขึ้น ถือเป็นก้าวย่างแห่งความมั่นคงทางอาหารสู่ความมั่งคั่งของเกษตรกรไทย