“รฟท.” เปิดงาน “OTOP ของดีวิถีริมทางรถไฟ” ดันสินค้าเกษตรขึ้นแท่น Soft Power

23 มี.ค. 2567 | 11:13 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มี.ค. 2567 | 11:20 น.

“รฟท.” เปิดงาน “OTOP ของดีวิถีริมทางรถไฟ” เล็งเปิดพื้นที่สถานีรถไฟทุกแห่ง ปลุก Soft Power หนุนแหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตรกร อุ้มเศรษฐกิจฐานราก

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “OTOP ของดีวิถีริมทางรถไฟ” ว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม จัดหาช่องทางการจำหน่ายและกระจายผลิตภัณฑ์ OTOP โดยใช้พื้นที่ของแต่ละหน่วยงานในสังกัด จึงได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำพื้นที่ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มาจัดเทศกาล “OTOP ของดีวิถีริมทางรถไฟ” ขึ้น 

“รฟท.” เปิดงาน “OTOP ของดีวิถีริมทางรถไฟ” ดันสินค้าเกษตรขึ้นแท่น Soft Power

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและกระจายสินค้าที่ผลิตขึ้นโดยใช้ภูมิปัญญาและความประณีตจากฝีมือคนไทย ให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างสะดวกและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการขนส่งทางรางนั้นสามารถขนส่งสินค้าให้กระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุม ถือเป็นการสนับสนุน Soft Power และช่วยผลักดันเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ
 

ทั้งนี้บรรยากาศภายในงาน “OTOP ของดีวิถีริมทางรถไฟ” เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากได้รับความสนใจจากผู้โดยสารที่ใช้บริการอยู่ภายในสถานี ทั้งผู้ใช้บริการรถไฟทางไกล รถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีน้ำเงินที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวมถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเลือกซื้อสินค้าจากชุมชนท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

“รฟท.” เปิดงาน “OTOP ของดีวิถีริมทางรถไฟ” ดันสินค้าเกษตรขึ้นแท่น Soft Power

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้จัดโครงการ “สถานีรถไฟเพื่อผู้ผลิตและผู้บริโภค” เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจภาคชุมชน โดยเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรและผู้จำหน่ายสินค้า OTOP สามารถนำสินค้ามาจำหน่ายที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศเป็นประจำทุกวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 
 

“รฟท.” เปิดงาน “OTOP ของดีวิถีริมทางรถไฟ” ดันสินค้าเกษตรขึ้นแท่น Soft Power

อย่างไรก็ตามผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายสถานีทุกแห่งทั่วประเทศ ตามนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องการสนับสนุนและส่งเสริมเศรษฐกิจภาคชุมชน ถือเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการกระจายสินค้าไปทั่วทุกภูมิภาคทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศต่อไป