เปิดธุรกิจ "สบู่กายา"ไร้ชื่อ "ส้ม ตรีชฎา" นั่ง CEO งบล่าสุด กำไร 4 แสน
เปิดธุรกิจ "สบู่กายา" บริษัท เดอะ เจเนอรัส จำกัด มีกรรมการบริษัท 1 คน ไร้ชื่อ "ส้ม ตรีชฎา" หรือ ตรีชฎา ใจสบาย นั่ง CEO งบการเงินล่าสุด ปี 2565 พบมีกำไร 4 แสน
จากกรณีมีกระแสในโลกออนไลน์ ตั้งคำถามต่อ "โปรเจกต์ปลดหนี้" ว่ามีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ จนทำให้เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ดร.ตรีชฎา ใจสบาย หรือ "ส้ม ตรีชฎา" ผู้บริหาร บริษัท เดอะ เจเนอรัส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบรนด์ "สบู่กายา" ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ฝน ธนสุนทร เป็นเพียงพรีเซนเตอร์ ไม่ได้มีส่วนในการคิดและบริหารใดๆ
พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ หรือธุรกิจเครือข่าย เป็นการจำหน่ายสินค้าตามเรทที่บริษัทกำหนด อีกทั้งคดีที่เคยเผชิญในอดีตตนเองไปขึ้นศาลทุกครั้ง ไม่เคยหนี ไม่เคยเปลี่ยนชื่อ และสุดท้ายศาลได้พิพากษารอลงอาญา 2 ปี จนถึงขณะนี้ได้พ้นระยะ 2 ปีมานานแล้ว
"ฐานเศรษฐกิจ" ได้ตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจของ บริษัท เดอะ เจเนอรัส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบรนด์สบู่กายา ผ่านระบบบริการวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจร Creden Data จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท เดอะ เจเนอรัส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบรนด์สบู่กายา ตั้งแต่ปี 2561 และปรากฏชื่อกรรมการ 1 ราย โดยไม่ปรากฏชื่อ น.ส.ตรีชฎา ใจสบาย หรือ "ส้ม ตรีชฎา" แต่อย่างใด
สำหรับข้อมูลการดำเนินธุรกิจ บริษัท เดอะ เจเนอรัส จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ภายใต้ชื่อ บริษัท เคลียร์สกาย จำกัด และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เดอะ เจเนอรัส จำกัด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ดำเนินธุรกิจด้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ 38/1558 ถนนไทยรามัญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
บริษัท เดอะ เจเนอรัส จำกัด มีกรรมการ 1 ราย คือ นางสาวรวีภัทร์ บุญรักษ์ และเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 9,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 98.00 % นอกจากนี้ ปรากฏชื่อผู้ถือหุ้นอีก 2 ราย คือ ภาวิดา ถนอมจิตต์ และภาสกร ถนอมจิตต์ จำนวนรายละ 100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.00 %
สำหรับข้อมูลงบการเงินนำส่ง ปี 2565 บริษัท เดอะ เจเนอรัส จำกัด มีสินทรัพย์รวม 1,610,109 บาท หนี้สินรวม 468,734 บาท รายได้รวม 6,916,971 บาท รายจ่ายรวม 6,424,044 บาท มีกำไรสุทธิ 451,121 บาท
ผลประกอบการย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2561 - 2565 พบว่า
- ปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 21,323 บาท
- ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 10,000 บาท
- ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 14,790 บาท
- ปี 2564 กำไรสุทธิ 486,366 บาท
- ปี 2565 กำไรสุทธิ 451,121 บาท