อธิบดีประมงลั่น แก้ปัญหาสอดคล้องวิถีชุมชน-ไม่ขัดพันธสัญญาต่างประเทศ

10 มี.ค. 2567 | 12:09 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มี.ค. 2567 | 12:23 น.

อธิบดีกรมประมง ลั่นกลางวงเวิร์กช็อป แก้ปัญหาสอดคล้องกับวิถีของชาวประมง ไม่ขัดพันธสัญญาระหว่างประเทศ ดันกรอบการทำงาน 7 ด้านลุยปี 67

รายงานข่าวจากกรมประมงเผยว่า วันที่ 8 มีนาคม 2567  นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ได้เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ การขับเคลื่อนนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการ ประจำปี พ.ศ.2567 ของกรมประมง โดยมีรองอธิบดี คณะผู้บริหาร และบุคลากรในสังกัด ทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เข้าร่วมประชุม และแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติราชการ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของกรมประมงให้ไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพสุงสุดแก่องค์กรและประชาชน

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุม ฯ ว่า การประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้บุคลากรในสังกัดกรมประมงได้รับทราบนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติราชการของกรมประมง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านการประมง เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด แก่เกษตรกร ชาวประมง และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีหลักการปฏิบัติงานด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

อธิบดีประมงลั่น แก้ปัญหาสอดคล้องวิถีชุมชน-ไม่ขัดพันธสัญญาต่างประเทศ

ทั้งนี้ได้กำหนดกรอบการทำงาน 7 ด้าน เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางในการปฏิบัติงาน ดังนี้ 1. สนองงานสถาบันพระมหากษัตริย์ สืบสาน รักษา ต่อยอด สนองงานตามแนวโครงการตามพระราชดำริ   สร้างอาชีพประมงยั่งยืน ทั้งในส่วนของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และงานตามพระบรมราโชบาย งานจิตอาสา งานอนุรักษ์ปลาไทย งานส่งเสริมความรู้จากฟาร์มตัวอย่างถึงเกษตรกร โดยมุ่งเน้นถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่และชุมชน

2.งานวิชาการตอบสนองการบริหารจัดการทรัพยากร การส่งเสริมอาชีพและการกำหนดมาตรการ โดยงานวิจัยต้องสามารถตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ ตรงตามความต้องการและสามารถแก้ไขปัญหาของประชาชน รวมถึงสามารถนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง

อธิบดีประมงลั่น แก้ปัญหาสอดคล้องวิถีชุมชน-ไม่ขัดพันธสัญญาต่างประเทศ

3.แก้ปัญหาด้านการทำประมง ปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับวิถีทำการประมงในปัจจุบันโดยไม่ขัดต่อพันธสัญญากับองค์การระหว่างประเทศ มีกลไกคณะกรรมการ/คณะทำงานเพื่อแก้ปัญหา ใช้หลักการป้องกันล่วงหน้า ภายใต้หลัก "ประชาสัมพันธ์ นำการจับกุม" จัดทำคู่มือการปฏิบัติในการใช้กฎหมายอย่างชัดเจนและต้องถือปฏิบัติอย่างมีคุณธรรม

4.บริหารจัดการประมงอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานทางวิชาการและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เจ้าหน้าที่ต้องมีองค์ความรู้ด้านวิชาการและทักษะการทำงานร่วมกับชุมชน เน้นการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ มีข้อมูลครอบคลุมทุกมิติและทันเหตุการณ์ เพื่อการบริหารจัดการและการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถบรรลุผลการปฏิบัติงานได้เชิงประจักษ์ 

 5.การผลิตด้านประมง โดยใช้แนวทาง "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้"  โดยวิเคราะห์สถานการณ์การผลิต การตลาด การนำเข้า ส่งออกสัตว์น้ำ เพื่อการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยขับเคลื่อนผ่าน Mr. สัตว์น้ำ การพัฒนางานวิจัย และส่งเสริมการทำเกษตรสมัยใหม่ เพื่อให้ผลผลิตได้รับมาตรฐานรองรับการส่งออก 

อธิบดีประมงลั่น แก้ปัญหาสอดคล้องวิถีชุมชน-ไม่ขัดพันธสัญญาต่างประเทศ

 6.การขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นแผนงานโครงการที่สำคัญของรัฐบาล สนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถของสินค้าภาคการประมงไทยให้เป็นที่ยอมรับและแข่งขันได้ในตลาดโลก 

7.สนับสนุนขับเคลื่อนด้วยความแม่นยำรวดเร็วและถูกต้อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการพัฒนาด้านการประมงไทย ตามวิสัยทัศน์กรมประมง ที่มุ่งมั่น พัฒนา ให้ความสำคัญทั้งระบบ ตลอดห่วงโซ่การผลิตให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเกษตรกรและชาวประมงไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

อธิบดีกรมประมง ยังเน้นย้ำถึง 4 องค์ประกอบสำคัญ ที่ต้องการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วนในการพัฒนาองค์กรและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมประมง ได้แก่

1.ด้านการเงิน โดย ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบจังหวัด งบท้องถิ่น และแหล่งทุนภายนอก เช่น แหล่งทุนงานวิจัยจากหน่วยงานวิจัยหรือองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเคร่งครัดการใช้เงินอย่างถูกต้อง แม่นยำ ตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

2.ด้านคน โดย การสร้าง “ครอบครัวกรมประมง” สร้างคนรุ่นใหม่ ใช้ระบบพี่เลี้ยง ปลูกฝังให้บุคลากรมีความกล้า ซื่อสัตย์ สุจริต ต่อสู้  และยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และองค์กรต้องให้ความเท่าเทียมในการแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่ง

3.ด้านงาน โดย มีแผนงานประมงแห่งชาติ แผนงานประมงเชิงพื้นที่ การใช้กลไกคณะกรรมการประมงจังหวัดในการแก้ไขปัญหา และการเสาะหาสัตว์น้ำเศรษฐกิจมูลค่าสูงในพื้นที่ และการพัฒนาสถาบันไต๋แห่งชาติ 4) ด้านองค์กร โดย ร่วมผลักดันในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ผลักดันผลงานคุณภาพสู่เวทีระดับชาติ ปลูกฝังจิตบริการที่ดีให้หน่วยงานที่ให้บริการให้แก่ประชาชน เป็นต้น

“การขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบายสำคัญด้านการประมง ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า) โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนเพื่อช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องเกษตรกร ให้กินดีอยู่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภาคเกษตรเติบโต เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี ด้วย 9 นโยบายสำคัญ นั้น กรมประมง พร้อมที่จะขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามข้อสั่งการดังกล่าว รวมถึงรายงานผลความก้าวหน้า ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อเป็นการนำนโยบายไปปฏิบัติอย่างแท้จริง” อธิบดีกรมประมง กล่าว