ผู้แทนการค้าไทย มั่นใจยางพารา ไม่ติดปัญหา กม. EUDR

20 ธ.ค. 2566 | 18:10 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ธ.ค. 2566 | 18:23 น.

“นฤมล” ผู้แทนการค้าไทย มั่นใจยางพาราของไทย ไม่ติดปัญหา กฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป เดินหน้าผลักดัน ขับเคลื่อน สนับสนุนส่งเสริม ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางตลาดยางพารา

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เป็นประธานประชุมโครงการยางล้อ เตรียมความพร้อมการประกาศใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ของ “สหภาพยุโรป” ร่วมกับนายเสกสรร ไตรอุโฆษ ประธาน SNPT นายกรกฎ กิตติพล เลขาสมาคมยางพาราไทย และนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทยเข้าร่วมประชุม

 

ผู้แทนการค้าไทย มั่นใจยางพารา ไม่ติดปัญหา กม. EUDR

 

ผู้แทนการค้า กล่าวว่า ตามที่  "สหภาพยุโรป"  เตรียมใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR)  ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่สินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า  การนำเข้ายางและผลิต ภัณฑ์จากยางจะต้องมาจากสวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ   พื้นที่อนุรักษ์ และ พื้นที่ป่า รวมถึงการจัดการสวนยางพารา ที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม  ถือเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระดับโลก  และเชื่อมั่นว่าจะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรชาวสวนยาง ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) แล้ว  กว่า 90% สามารถระบุที่ตั้งของสวนยางได้ พร้อมรองรับตามกฎ EUDR   โดย กยท. ได้ดำเนินการควบคู่กับการพัฒนาระบบการจัดการสวนยางอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล เพิ่มโอกาสส่งออกยางไทยในตลาดโลก

 

ผู้แทนการค้าไทย มั่นใจยางพารา ไม่ติดปัญหา กม. EUDR

 

ผู้แทนการค้า กล่าวย้ำว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามมาตรการ EUDR มาอย่างต่อเนื่อง  โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานของสหภาพยุโรปในการผลักดันมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางของไทยสามารถส่งออกได้ตามมาตรฐาน สร้างรายได้ และเพิ่มราคาให้กับชาวสวนยางของไทย 

 

ผู้แทนการค้าไทย มั่นใจยางพารา ไม่ติดปัญหา กม. EUDR

 

“การขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน  เกษตรกร และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล หารือและสร้างแนวทางขับเคลื่อนไปด้วยกัน โดยเฉพาะแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ปลูกยาง รวมถึงการตลาด เพื่อประโยชน์ต่อชาวสวนยาง รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน โดยจะนำปัญหา และข้อเสนอแนะไปดำเนินการ  รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รองรับการประกาศใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ของ “สหภาพยุโรป” ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางตลาดยางพารา ผลักดันการส่งออกยางพาราปีละ 2.5 – 3 ล้านตัน” ผู้แทนการค้า กล่าว

 

ผู้แทนการค้าไทย มั่นใจยางพารา ไม่ติดปัญหา กม. EUDR