สมาคมโรงสีเดือด ยื่นหนังสือพรรคเพื่อไทย ไม่พอใจ สส.ใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาท

24 ต.ค. 2566 | 13:12 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ต.ค. 2566 | 17:11 น.
967

“รังสรรค์” นายกสมาคมโรงสี ยื่นหนังสือพรรคเพื่อไทย ไม่พอใจ ส.ส. ใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาทกลางสภา ระบุ รวมกลุ่มกันเพื่อตั้งราคา บังคับให้ชาวนาขายข้าวในราคาถูก ยันไม่จริง โรงสีมีกว่า 400 ราย แข่งขันสูง หวั่นสร้างความเข้าใจผิด ทำให้เกิดความเกลียดชังกันในสังคม

นายรังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ (24 ต.ค.66) ทางสมาคมได้ยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรื่อง ร้องเรียนการใช้ถ้อยคำดูหมิ่นผู้ประกอบการโรงสี ตามที่ นางสาว วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย ได้มีการอภิปรายในประเด็นที่มีการพาดพิงถึงผู้ประกอบการโรงสี ตอนหนึ่งว่า “รวมกลุ่มกันเพื่อตั้งราคาข้าวที่ตนเองพอใจ บังคับให้ชาวนาขายข้าวในราคาถูก การกระทำแบบนี้เป็นการทำนาบนหลังคน ขูดเลือดขูดเนื้อกันแบบเอาให้ตาย” ในการประชุมสภาฯ ดังที่ปรากฎในสื่อต่าง ๆ แล้วนั้น

สมาคมโรงสีเดือด ยื่นหนังสือพรรคเพื่อไทย ไม่พอใจ สส.ใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาท

สมาคมโรงสีข้าวไทย ในฐานะองค์กรที่มีสมาชิกผู้ประกอบการโรงสีข้าวทั่วประเทศ ขอเรียนข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว เนื่องด้วยข้าวเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาสินค้ามีการปรับขึ้นลงตลอดเวลาเป็นแบบนี้ทั่วทั้งโลก การขึ้นลงของราคาสินค้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามหลักเศรษฐศาสตร์ และด้วยสถานการณ์ราคาข้าวในปีนี้ราคาข้าวได้ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 15 ปี และราคาปรับขึ้นสูงกว่าปีที่ผ่านมามากกว่า 20% อันเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาข้าวมีความผันผวนสูง

 

ด้วยจำนวนผู้ประกอบการโรงสีข้าวที่มีจำนวนมากกว่า 400 รายทั่วประเทศ ทำให้ปัจจุบันมีการแข่งขันในธุรกิจโรงสีข้าวที่สูงมาก และระบบการค้าข้าวที่เป็นการค้าขายแบบเสรี เป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้ประกอบการจะมีการรวมหัวกันกำหนดราคารับซื้อ การที่ราคาปรับตัวลดลงก็เป็นไปตามกลไกตลาดทั้งสิ้น ทั้งนี้ราคาข้าวเปลือกที่ปรับตัวลดลงมา ก็ยังเป็นราคาที่สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

 

 

ทั้งนี้ทางสมาคมโรงสีข้าวไทยได้มีการนำเสนอมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวให้กับทางรัฐบาลเพื่อให้มีการกำหนดมาตรการสำหรับฤดูการเก็บเกี่ยวที่กำลังจะมาถึง อันจะช่วยลดความผันผวนทางด้านราคาข้าวเปลือก แต่ก็ยังมิได้มีการตอบสนองจากทางรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม

นายรังสรรค์ กล่าวอีกว่า การที่ สส. ซึ่งเป็นผู้ทรงเกียรติในสภาผู้แทนราษฏร ใช้วาจาถ้อยคำเป็นการดูหมิ่นผู้ประกอบการโรงสีข้าวดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นโดยไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในทางการค้าข้าวเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง สุดท้ายนี้ขอให้ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะต้นสังกัด ได้พิจารณาว่ากล่าวและตักเตือน สส. ท่านดังกล่าว เพื่อไม่ให้มีการพูดโดยปราศจากความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ซึ่งเป็นเหตุให้เข้าใจผิด เกิดความเกลียดชังกันในสังคมต่อไป