กรมบัญชีกลางเบิกจ่ายงบปี 66 เกินเป้า 3.1 ล้านล้านบาท

04 ต.ค. 2566 | 09:01 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ต.ค. 2566 | 09:01 น.

กรมบัญชีกลางเผยผลการเบิกจ่ายงบปี 66 เกินเป้า 3.1 ล้านล้านบาท ชี้ปี 67 ใช้งบพลางก่อน พร้อมซ้อมความเข้าใจจัดซื้อจัดจ้าง หนุนเม็ดเงินลงเศรษฐกิจ

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจ คณะรัฐมนตรีได้กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยภาพรวมเบิกจ่ายไม่น้อยกว่า ร้อยละ 93 รายจ่ายประจำเบิกจ่ายไม่น้อยกว่า ร้อยละ 98 รายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายไม่น้อยกว่า ร้อยละ 75 และการใช้จ่ายงบประมาณ (การก่อหนี้) รายจ่ายภาพรวมรายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน ร้อยละ 100

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง

โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ต.ค. 65 - ก.ย. 66) กรมบัญชีกลางสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยรับงบประมาณต่าง ๆ เกินเป้าหมายที่กำหนด โดยภาพรวมเบิกจ่ายแล้ว 3,088,435 ล้านบาท คิดเป็น 96.97% ของวงเงินงบประมาณ 3,185,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ จำแนกเป็น

  • รายจ่ายประจำเบิกจ่ายแล้ว 2,610,245 ล้านบาท คิดเป็น 101.60% ของวงเงินงบประมาณ 2,569,220 ล้านบาท
  • รายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายแล้ว 478,190 ล้านบาท คิดเป็น 77.66% ของวงเงินงบประมาณ 615,780 ล้านบาท
  • สำหรับเงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีเบิกจ่ายแล้ว 173,958 ล้านบาท คิดเป็น 91.48% ของวงเงินงบประมาณ 190,168 ล้านบาท 

ขณะที่ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นี้ ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ไปพลางก่อน กรมบัญชีกลางได้ซ้อมความเข้าใจแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กรณีการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน 

ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามแผนและขั้นตอนของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปจนถึงขั้นตอนการประกาศผลผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือก เพื่อพร้อมที่จะทำสัญญาหรือข้อตกลงได้ทันที เมื่อสำนักงบประมาณอนุมัติจัดสรรเงินให้แก่หน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นหน่วยรับงบประมาณ 

“กรมบัญชีกลางยังคงมุ่งมั่นกำกับดูแลการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของแผ่นดินเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด และสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว