"นลินี ทวีสิน” ผู้แทนการค้าไทย กับฝีมือการบริหารธุรกิจ

ชื่อของ “นลินี ทวีสิน” หวนกลับมามีบทบาทสำคัญในรัฐบาลอีกครั้ง หลังจาก “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ ผู้แทนการค้าไทย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2566 นับเป็นการก้าวเข้ามานั่งในตำแหน่งเดิมอีกครั้ง หลังจากเคยทำหน้าที่นี้มาก่อนในช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 

ตำแหน่ง ผู้แทนการค้าไทย หรือ Thailand Trade Representative (TTR) เป็นตำแหน่งสำคัญ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย พ.ศ. 2552 กำหนดอำนาจหน้าที่ว่า เป็นผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีในการเจรจาการค้าต่างประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งเรื่องอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ ท่าทีของรัฐบาลและคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 

พร้อมกันนี้ยังมีหน้าที่เสนอแนะและให้คำปรึกษากับนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รวมทั้งผลกระทบต่าง ๆ ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับการแสนอแนะนายกฯ เกี่ยวกับการจัดทำแผนงานและงบประมาณรายจ่ายด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของส่วนราการและหน่วยงานอื่นของรัฐที่เกี่ยวข้องด้วย

 

เมื่อไม่นานมานี้ “นลินี ทวีสิน” ผู้แทนการค้าไทย ให้สัมภาษณ์หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนการค้าไทยในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ว่า จะขอใช้ความรู้และประสบการณ์ทั้งในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้แทนการค้าไทย 2 สมัย รวมทั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยมากที่สุด 

ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ “นลินี ทวีสิน” ผ่านระบบบริการวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจร Creden Data ซึ่งมีฐานข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบชื่อ “นลินี ทวีสิน” ว่า ที่ผ่านมาเคยนั่งเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 7 แห่ง ในจำนวนนี้มีบริษัทเพียง 2 เท่านั้นที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ แต่ที่เหลืออีก 5 แห่ง มีสถานะเสร็จการชำระบัญชีแล้ว มีรายละเอียดดังนี้ 

1.บริษัท กรีน ลิฟวิ่ง อินทิเกรชั่น จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่าย ส่งออก ปุ๋ยอินทรีย์ ทุกชนิด ทุกประเภท ข้อมูลการเงินล่าสุด คืองบการเงินนำส่งปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 1,705,085 บาท หนี้สินรวม 65,541 บาท รายได้รวม 625,084 บาท รายจ่ายรวม บาท กำไร 489,429 บาท

2.บริษัท เพียว ออแกนิค พลัส จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจ เกี่ยวกับการจำหน่ายผักปลอดสารพิษ ข้อมูลการเงินล่าสุด คืองบการเงินนำส่งปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 2,776,077 บาท หนี้สินรวม 1,198,388 บาท รายได้รวม 7,631,768 บาท รายจ่ายรวม บาท กำไร 435,836 บาท

 

ส่วนที่เหลืออีก 5 แห่ง มีสถานภาพกิจการ คือ เสร็จการชำระบัญชี ประกอบด้วย 

1. บริษัท ซัคเซส ปัสพอร์เทชั่น จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการขนส่งผู้โดยสาร ให้เช่ารถ
2. บริษัท ซัคเซส ไดเรค เซลส์ จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ เทป วีดีโอ
3. บริษัท ดูนามิส ยูนิ จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ บริการด้านธุรกิจให้บุคคลอื่น
4. บริษัท สปา โอเวชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับฝึกอบรมการนวดตัวตามหลักวิชาแผนปัจจุบันแก่บุคคลทั่ว
5. บริษัท ไอ เอฟ ดี มีเดีย จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับจัดฝึกอบรม สัมมนางานด้านการศึกษา

 

 

ส่วนการถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ จากการตรวจสอบ ผ่านระบบ Creden Data ยังพบชื่อ “นลินี ทวีสิน” ว่า ที่ผ่านมาเคยถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ อย่างน้อย 11 แห่ง ในจำนวนนี้ มีบริษัทเพียง 4 แห่งเท่านั้นที่มีสถานะยังดำเนินกิจการอยู่ ส่วนที่เหลือมีสถานภาพกิจการ คือเสร็จการชำระบัญชี โดยมีรายละเอียด ดังนี้

บริษัทที่ยังมีสถานะยังดำเนินกิจการอยู่ 

1.บริษัท อะควาติส วัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อทางการค้า โดย“นลินี ทวีสิน” ถือหุ้นอันดับที่ 2 จำนวนหุ้น 600,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4%

2.บริษัท เพียว ออแกนิค พลัส จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายผักปลอดสารพิษ โดย “นลินี ทวีสิน” ถือหุ้นอันดับที่ 1 จำนวนหุ้น 9,998 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 99.98%

3.บริษัท กรีน ลิฟวิ่ง อินทิเกรชั่น จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่าย ส่งออก ปุ๋ยอินทรีย์ ทุกชนิด ทุกประเภท โดย “นลินี ทวีสิน” ถือหุ้นอันดับที่ 2 จำนวนหุ้น 4,888 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 48.88%

4.บริษัท ศูนย์ฝึกอบรมและที่ปรึกษา ไอเอฟดี จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการฝึกอบรมและทำโครงการวิจัย โดย “นลินี ทวีสิน” ถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวนหุ้น 400 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4%

 

 

ส่วนที่เหลืออีก 7 แห่ง พบว่า มีสถานภาพกิจการ คือ เสร็จการชำระบัญชี ประกอบด้วย 

1. บริษัท ซัคเซส ฟาร์ม จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง โดยถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวนหุ้น 4,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4%
2. บริษัท ซัคเซส โฮลดิ้งส์ จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับจัดสรรหุ้นส่วน โดยถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวนหุ้น 4,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4%
3. บริษัท ซัคเซส แคปปิตอล จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ โดยถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวนหุ้น 4,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4% 
4. บริษัท ซัคเซส เทคโนโลยี จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับบริการทำความสะอาด โดยถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวนหุ้น 4,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4%
5. บริษัท ซัคเซส ไบโอเทค จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับขายพืชผลทางการเกษตร โดยถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวนหุ้น 4,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4%
6. บริษัท ซัคเซส เลเทอร์ จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องหนัง โดยถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวนหุ้น 4,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4%
7. บริษัท ดูนามิส เทรดดิ้ง จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้า โดยถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวนหุ้น 4,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4%