หน่วยงานเศรษฐกิจ เรียงคิวเข้าพรรคเพื่อไทย ถกดันนโยบายเร่งด่วน

วันนี้ (4 กันยายน 2566) ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีผู้บริหารระดับสูง และตัวแทนของกระทรวง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง โดยเฉพาะหน่วยงานด้านเศรษฐกิจเดินทางเข้ามายังพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้ามารายงานข้อมูลการทำงาน รวมไปถึงโครงการนโยบายต่าง ๆ ที่จะต้องผลักดันออกมาให้ได้หลังจากรัฐบาลเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินอย่างเป็นทางการแล้ว

สำหรับหน่วยงานที่เดินทางมาเป็นหน่วยงานแรก ๆ ในวันนี้ มีทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เช่นเดียวกับหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงพาณิชณ์ เช่น กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ซึ่งเข้ามารายงานข้อมูลกับทางทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย และรับทราบนโยบายเบื้องต้นในด้านการพาณิชย์ เพื่อจะได้เร่งดำเนินนโยบายของรัฐบาลในเชิงรุกต่อไป  

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์วันนี้ ที่พรรคเพื่อไทยว่า วันนี้ทางพรรคเพื่อไทยได้เชิญหลายภาคส่วนมาหารือในหลาย ๆ เรื่อง เช่น การผลักดันนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งจะมีขั้นตอนการจัดทำออกมาหลังจากนี้ รวมทั้งยังหารือกับรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องการแถลงนโนบายรัฐบาลต่อรัฐสภา รวมไปถึงการพบปะพูดคุยกันถึงการทำงานร่วมกันในรัฐบาลด้วย

ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยได้เชิญหน่วยงานต่าง ๆ มาหารืออย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ได้คุยกับหน่วยงานต่าง ๆ ทุกวัน เพื่อเตรียมความพร้อมด้านนโยบาย เช่น การเชิญสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เข้ามารายงานสถานการณ์ประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านสังคม 

รวมทั้งการเชิญกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เข้ามาหารือถึงการผลักดันนโยบายของรัฐบาล และการเตรียมความพร้อมด้านการจัดหาแหล่งเงินในนโยบายสำคัญ โดยเฉพาะ นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 

นอกจากนี้ในด้านพลังงาน นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ พรรครวมไทยสร้างชาติ และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรครวมไทยสร้างชาติ 

ทั้งนี้ นายกฯได้รับทราบการดำเนินนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาลเดิม พร้อมกันนี้ อดีตรองนายกฯ ยังฝากสานต่องานไว้หลายเรื่อง รวมไปถึงการลดราคาพลังงาน ทั้ง ค่าไฟฟ้า ก๊าซ และน้ำมันดีเซล ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ๆ รัฐบาลจะพิจารณาการประกาศลดราคาต่อไป