ย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 ยันฮี ได้เปิดตัว “แคลเซียม วิตามินวอเตอร์” เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย เป็นการเปิดเซกเมนต์ใหม่และทำให้ตลาดน้ำดื่มกลับมาคึกคักในรอบหลายปี ความนิยมของนำดื่มวิตามินทำให้ผู้เล่นรายอื่นเทเข้ามาในตลาดมากขึ้น
ขณะที่ยันฮี ส่ง วิตามินวอเตอร์ เฟลเวอร์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความเป็นจ่าฝูงเอาไว้ และในปี 2566 นี้ ดูเหมือนว่า “ยันฮี” จะมีลูกเล่นใหม่ๆมาเขย่าตลาดอีกครั้งโดยส่ง "ยันฮี แคลเซียมวอเตอร์" ลงตลาดเสริมทัพไลน์ Vitamin Water ภายใต้การดีเวลลอปของบริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด จนติดตลาดในระยะเวลาอันสั้น
สิ่งที่น่าสนใจคือ กลยุทธิ์ในการดึงผู้บริโภคให้หันมาสนใจผลิตภัณฑ์ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด ยันฮี ใช้กลยุทธ์ ‘Trial’ เปิดรับอาสาสมัครที่มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน’ จำนวน 100 คนมาทดลองดื่มน้ำยันฮีแคลเซียมติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมวัดผลค่ามวลกระดูกหลังดื่มต่อเนื่องทุกวันเพื่อดูผลลัพธ์จากการดื่มน้ำแคลเซียม เปิดโอกาสให้ทดลองสินค้า
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด ย้อนให้ฟังถึงที่มาของ"ยันฮี แคลเซียมวอเตอร์"ว่า โรคกระดูกพรุนเป็นภัยเงียบที่ทุกคนอาจมองข้ามไป สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากภาวะที่มีเนื้อกระดูกบางตัวลง ทำให้เสี่ยงต่อภาวะกระดูกหักหรือยุบตัวได้ง่าย
ดังนั้นจึงควรได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ แต่ด้วยร่างกายไม่สามารถผลิตแคลเซียมเองได้ การได้รับแคลเซียมจึงต้องมาจากการรับประทานเท่านั้นไม่ว่าจากอาหารโดยตรงหรืออาหารเสริม แต่ผู้บริโภคบางกลุ่มประสบปัญหาในการทานแคลเซียม อาทิ แพ้แลคโตสในนมวัว ไม่ชอบรับประทานแคลเซียมแบบเม็ดเพราะดูดซึมได้ยากจนทำให้มีอาการท้องอืดตามมา “โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ” จึงค้นคว้าและพัฒนา 'ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์’ ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้มากที่สุด
“สำหรับเครื่องดื่ม ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ เป็นสินค้าใหม่ของยันฮี ที่พัฒนาโดยมีแนวคิดเพื่อมุ่งตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเสริมแคลเซียม แต่อาจประสบปัญหาในการทานแคลเซียม เราใช้ Calcium Glycerophosphate จาก ISALTIS ดูดซึมง่ายกว่าแคลเซียมปกติ ไม่มีน้ำตาลและไม่มีแลคโตส รสชาติอร่อยและมีกลิ่นหอมของโยเกิร์ตช่วยให้สดชื่น ดื่มได้ทุกวัน เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ตลอดจนผู้สูงวัยและผู้ที่ต้องการเสริมสร้างแคลเซียม
“ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มวิตามินผสมแคลเซียมในครั้งนี้ เราต้องการทำให้ผู้บริโภคทราบถึงประโยชน์และภัยเงียบหากขาดแคลเซียม โดยได้รับเกียรติจาก นายแพทย์สุชาติ เลาบริพัตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน และแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย มาร่วมให้ความรู้รวมถึงแชร์ Case Study จริง เพื่อให้คนไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของแคลเซียมและไฮไลท์สำคัญคือ เราได้เปิดรับอาสาสมัครที่มีช่วงอายุ 30 - 60 ปี เพื่อมาทดลองดื่มน้ำยันฮีแคลเซียมวอเตอร์ ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมวัดผลค่ามวลกระดูกก่อนและหลังดื่มน้ำแคลเซียมต่อเนื่องทุกวันเพื่อดูผลลัพธ์”
สำหรับการเปิดรับอาสาสมัครในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่อยู่ภายใต้ “โครงการเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง” เราจะเปิดรับอาสาสมัครจำนวน 100 ท่าน ตั้งแต่วันที่ 3 ถึง วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เพศใดก็ได้ ที่มีอายุระหว่าง 30- 60 ปี โดยให้อาสาสมัครมาตรวจวัดมวลกระดูกฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลยันฮี และให้ทดลองดื่มยันฮีน้ำแคลเซียมวอเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำอย่างใกล้ชิด
จากนั้นจึงมาวัดผลค่ามวลกระดูกหลังดื่มน้ำแคลเซียมต่อเนื่องทุกวันเพื่อให้อาสาสมัครทุกท่าน ได้ทราบถึงค่ามวลกระดูกของตัวเองและหาทางป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนในอนาคต นอกจากนี้ จะให้ทดลองดื่มยันฮีแคลเซียมวอเตอร์จริง ถือเป็นโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทดลองดื่มผลิตภัณฑ์และวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ทางด้าน ทพญ.สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ และ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันกระแสการดูแลสุขภาพถือเป็น Global Trend ที่มาแรง ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ต่างให้ความสำคัญเพื่อนำมาซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายและใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการ จึงทำให้คนหันมามองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สุขภาพคนรุ่นใหม่ ที่มีชีวิตเร่งรีบ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่บริโภคได้ง่าย และหาซื้อได้ทั่วไปเป็นที่นิยม ส่งผลให้ตลาดน้ำดื่มสุขภาพบ้านเราคึกคักเป็นพิเศษ
โดยตัวเลขรวมตลาดน้ำดื่มในไทยมีมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาท ซึ่งแบ่งออกเป็นหลักๆ 3 Segment ได้แก่ น้ำดื่มธรรมดา, น้ำแร่ และน้ำวิตามินต่างๆ ซึ่งแบรนด์ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ ยังคงมีสัดส่วนอยู่ในอันดับต้นๆ ของตลาดในไทย ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ จัดอยู่ใน Segment ของน้ำวิตามิน และถือเป็นนวัตกรรมน้ำดื่มแคลเซียมเจ้าแรกในไทย บรรจุในขวดใสสะอาดขนาด 460 ml. วางจำหน่ายแล้วที่ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ และจะขยายสู่ช่องทาง Modern Trade อื่นๆ รวมถึงจะมีขนาด 350ml. ที่จะวางขายในช่องทางร้านค้าทั่วประเทศเร็วๆนี้อีกด้วย
ในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนทำการตลาดอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้ง online และ offline เน้นให้ความรู้เกี่ยวกับแคลเซียมผ่านแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนใช้กลยุทธ์ Trial ด้วยการเปิดรับอาสาสมัครให้มาทดลองดื่มยันฮีแคลเซียมวอเตอร์ เพื่อสร้างความคุ้นเคยในตัวสินค้า และวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น ทั้งยังเป็นการวัด Feedback ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีแผนจัดกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบ Sampling Activation สร้างการเข้าถึงยังกลุ่มเป้าหมายเพิ่ม ตลอดจนเน้นสร้างการรับรู้ของผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมให้ความรู้และชี้ให้เห็นความสำคัญของแคลเซียม”