เป็นที่ทราบกันดีว่าสังคมไทยเตรียมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ในปี 2574 ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพตื่นตัวและออกเคมเปญชิงเม็ดเงินมหาศาลจากกลุ่มผู้สูงวัย รวมทั้งโรงพยาบาลวิมุต หนึ่งในผู้เล่นในตลาดโรงพยาบาลเอกชนที่ปักธงในการเป็น Trusted Healthcare Platform ของไทย ภายใต้เป้าหมายช่วยเหลือสังคมไทยให้เตรียมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด
ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ข้อมูลศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี (TTB Analytics) ยังชี้ว่าธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในปี 2576 จะมีมูลค่าตลาดแตะ 2 หมื่นล้านบาท สอดรับกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของกลุ่ม Gen X นั่นเอง
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวถึงการสร้างอีโคซิสเต็มด้านสุขภาพของโรงพยาบาลวิมุต เพื่อการดูแลสุขภาพว่า “การเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทยถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันรับมือและเตรียมความพร้อม ปัจจุบันการดูแลรักษาผู้ป่วยไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในโรงพยาบาล ในฐานะ Seamless and Comprehensive Care ชั้นนำของเมืองไทย
แผนระยะยาวของโรงพยาบาลวิมุต คือการสร้างอีโคซิสเต็มด้านสุขภาพที่แข็งแกร่งและเข้าถึงคนจำนวนมาก อาทิ คลินิกสุขภาพ ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน (Home Health Care) ในโครงการพฤกษา เป็นต้น
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด
รวมถึงกลุ่มโรคอื่น ๆ เช่น ความผิดปกติของการมองเห็นและการได้ยิน ตลอดจนภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ด้วยความซับซ้อนและความท้าทายในการดูแลผู้สูงวัย การดูแลที่เหมาะสม ปลอดภัย และได้ผลดี คือการดูแลรักษาแบบองค์รวมตั้งแต่การป้องกันจนถึงการฟื้นฟูนั่นเอง”
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด
สำหรับแคมเปญ “ViMUT Healthy 50Plus” ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนให้คนไทยอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพได้อย่างคุ้มค่าและสะดวกสบายผ่านแพ็กเกจการตรวจรักษาโรคโดยบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการคัดกรองการเจ็บป่วยตั้งแต่เนิ่น ๆ ของคนวัยเก๋า เราเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนวัย 50+ ได้อย่างแน่นอน”