‘บาจา’ บุกห้างใหญ่ วาดแผนกวาดรายได้ 3,000 ล้านใน 3 ปี

16 มิ.ย. 2566 | 16:07 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2566 | 16:11 น.

“บาจา” ปลื้มไตรมาส 1 เติบโต 55% วาดแผน 3 ปี เดินหน้าขยายสาขา ปักหมุดบุกห้างใหญ่ในเมือง เพิ่มฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ หวังกวาดรายได้ทะลุ 3,000 ล้าน

หลังประกาศยุทธศาสตร์กลับมาเดินหน้ารุกหนักในตลาดเมืองไทยในปี 2566 ทั้งการขยายช่องทางการจำหน่าย เพื่อสร้างโอกาสในการขาย รวมทั้งการจับมือกับพันธมิตร เช่น TikTok, Line, ลาซาด้า,ช้อปปี้ การคอลลาเบอเรชั่น กับแบรนด์สไมล์ลี่ หรือศิลปินดังๆ เพื่อสร้างคอลเลคชันใหม่ ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ พบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

‘บาจา’ บุกห้างใหญ่ วาดแผนกวาดรายได้  3,000 ล้านใน 3 ปี

นางสาววิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งภาพรวมกำลังซื้อของลูกค้า การจัดแคมเปญใหญ่ และกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในไตรมาสแรกของปี 2566 มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่เติบโตสูงถึง 70% เมื่อเทียบจากปี 2564

ล่าสุดบาจาได้ร่วมกับ “ฟีไลน์ เอเจนซี” (Feline Agency) ซึ่งคร่ำหวอดในวงการแฟชั่นและมีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน เปิดตัวแคมเปญ “Sneakers for All” เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบาจาในการผลิตรองเท้าผ้าใบที่มีสไตล์และสวมใส่สบายสำหรับทุกคน

 

โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ เพศ หรือลักษณะเฉพาะอื่นๆ เพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลาย และการไม่แบ่งแยก ส่งข้อความอันทรงพลังของการอยู่ร่วมกันและการรักตนเอง จึงเกิดแคมเปญนี้ขึ้นมา ซึ่งสอดคล้องกับยอดขายรองเท้าสนีกเกอร์ ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เท่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทั้งสินค้าในกลุ่มรองเท้า North Star (Street sneakers) และ Power (Performance sneakers)

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้ บริษัทจะมุ่งรักษาฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในต่างจังหวัดและหัวเมืองใหญ่ ขณะเดียวกันก็จะขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มคนเมือง ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 70% นับตั้งแต่ต้นปี 2565 เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค จึงวางแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา ภายในห้างสรรพสินค้าใหญ่ในเมืองเริ่มต้นที่สีลม คอมเพล็กซ์ในเดือนกรกฎาคม และสยามสแควร์ ในช่วงสิ้นปี เพิ่มเติมจากหน้าร้านปัจจุบันที่มีแล้วกว่า 250 สาขาทั่วประเทศ

 

พร้อมพัฒนาช่องทางจัดจำหน่าย Omni-channel ที่เชื่อมโยงช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการ นางสาววิลาสินี กล่าวอีกว่า บริษัทยังเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (CRM) เพื่อสร้างรอยัลตี้กับกลุ่มลูกค้าด้วยบัตร Bata Club พร้อมนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษตลอด ทั้งปีผ่านการเปิดตัวสินค้าและเทคโนโลยีใหม่

 

ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายและส่งผลทำให้เติบโต ขึ้นอีก 3 เท่าของตลาดรวมหรือคิดเป็น 25% ภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งการใช้แคมเปญกระตุ้นแบรนด์ ผ่านพรีเซ็นเตอร์คนดังอย่าง “เบลล่า-ราณี แคมเปน” เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง และย้ำจุดยืน “Shoes for All” ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย “บาจามั่นใจว่าภายใน 3 ปีนับจากนี้ จะผลักดันยอดขายและรายได้เติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 25% ทุกปี และทำให้บาจาขึ้นเป็นแบรนด์รองเท้าเบอร์ 1 ของตลาดพรีเมียมแมสได้อย่างแน่นอน”

 

โดยในปีที่ผ่านมาบาจา มียอดขายรวม 2,450 ล้านบาท เติบโต 1% ขณะที่ช่วงก่อนโควิด มียอดขายราว 2,400 ล้านบาท โดยสัดส่วนการขายมาจาก บาจา 78%, เพาเวอร์ 11%, นอร์ธสตาร์ 6%, บับเบิลกัมเมอร์ 5% หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,896 วันที่ 15 - 17 มิถุนายน พ.ศ. 2566