จับกุมชาวอินเดียลักลอบนำเข้า"หนังโค-เขี้ยวหมู" 200 กิโลฯ

13 มิ.ย. 2566 | 11:35 น.
อัปเดตล่าสุด :13 มิ.ย. 2566 | 11:35 น.

อธิบดีกรมปศุสัตว์เผย เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจับกุมชาวอินเดียลักลอบนำเข้าหนังโค 60 กิโลกรัม และเขี้ยวหมู 140 กิโลกรัม ยึดของกลางไว้ทำลายเพื่อป้องกันโรคระบาด

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสัตวแพทย์ชุติพนธ์  ศิริมงคลรัตน์ ผู้อำนวยการกองสารวัตรและกักกัน และนายสัตวแพทย์ยุทธนา โสภี หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจพบความผิดปกติของกระเป๋า 6 ใบที่มากับเที่ยวบินซึ่งมีต้นทางจากประเทศอินเดีย โดยลักษณะของกระเป๋ามีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก จึงขอเปิดตรวจค้นและพบการลักลอบนำซากสัตว์ประกอบด้วย หนังโค 60 กิโลกรัม และเขี้ยวหมูจำนวน 140 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 200 กิโลกรัม

จับกุมชาวอินเดียลักลอบนำเข้า\"หนังโค-เขี้ยวหมู\" 200 กิโลฯ

เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำชาวอินเดียเจ้าของกระเป๋า เบื้องต้นสารภาพว่า ลักลอบนำเข้าเพื่อมาทำเป็นเครื่องประดับและเครื่องรางของขลัง ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อเข้าใจว่าทำมาจากเขี้ยวเสือหรือหนังเสือ จากนั้นจึงนำตัวเจ้าของกระเป๋าส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 มีโทษตามมาตรา 68 ผู้ใดนำเข้า ส่งออก

จับกุมชาวอินเดียลักลอบนำเข้า\"หนังโค-เขี้ยวหมู\" 200 กิโลฯ

หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนของกลางทั้งหมดได้ยึดไว้ทำลายเพื่อป้องกันโรคระบาดที่อาจปนเปื้อนมากับซากสัตว์ดังกล่าว

จับกุมชาวอินเดียลักลอบนำเข้า\"หนังโค-เขี้ยวหมู\" 200 กิโลฯ

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าสัตว์มีชีวิตหรือซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องในทุกช่องทาง เพื่อป้องกันการแพร่ของโรคระบาดสัตว์ ซึ่งซากสัตว์ดังกล่าวอาจเป็นพาหะของโรคปาก และเท้าเปื่อย โรคลัมปีสกิน และโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เป็นต้น รวมถึงเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ภายในประเทศ

 

 

ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดกฎหมายกรมปศุสัตว์ หรือข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดใกล้เคียง หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร 063-225-6888 หรือสารวัตรปศุสัตว์ไซเบอร์ โทร 02-501-3473 หรือแจ้งผ่าน Application : DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา