กรมบัญชีกลางอัปเดตบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนพฤษภาคม 2566 จ่ายอะไรบ้าง

11 พ.ค. 2566 | 10:40 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ค. 2566 | 10:51 น.

กรมบัญชีกลงอัปเดตบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนพฤษภาคม 2566 จ่ายอะไรบ้างสำหรับผู้ได้รับสิทธิลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่กว่า 13 ล้านราย ดูไทม์ไลน์โอนเงินให้กับผู้ถือบัตรทั้งหมดที่นี่

นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนพฤษภาคม 2566 จะได้รับวงเงิน ดังนี้

วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
  •  วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2566)
  •  วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน  ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL)

วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 (วงเงิน e-Money สามารถถอนเป็นเงินสดได้)

  • ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
  • ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท)

* ผู้มีสิทธิรายเดิมตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และโครงการลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ที่ได้รับสิทธิในการชดเชยค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าน้ำประปา กรมบัญชีกลางจะโอนเงิน e-Money เข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นครั้งสุดท้าย

* ผู้มีสิทธิรายใหม่ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 จะต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ ตามมาตรการฯ กับผู้ให้บริการไฟฟ้าได้ 1 แห่ง และผู้ให้บริการน้ำประปาได้ 1 แห่ง (การไฟฟ้านครหลวง

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค) ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิในการชดเชยค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าน้ำประปา ตามเงื่อนไขของการให้สิทธิสวัสดิการ ไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าน้ำประปา โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการจ่ายเงินคืนให้แก่หน่วยงานที่ให้บริการโดยตรง
 

บัตรคนจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

 

วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 (โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

  •  เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน  (สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นผู้พิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน โดยจะต้องทำการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ภายในวันที่ 26 เมษายน 2566)

 

สำหรับเดือนเมษายน 2566 กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1- 30 เมษายน 2566 ดังนี้

1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประจำตัวประชาชน)

1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 3,682.36 ล้านบาท

1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 259.40 ล้านบาท

1.3 วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 28.32 ล้านบาท

1.4 วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด 10.42 ล้านบาท

1.5 วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 25.50 ล้านบาท

รวมจำนวนเงิน (1) 4,006.01

2. สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ (บัตรประจำตัวประชาชน)

2.1 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 (โอนเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 66) 162.19 ล้านบาท รวมจำนวนเงิน (2) 162.19 ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน

3.สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

3.1 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 183.22 ล้านบาท

3.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 18.37 ล้านบาท

3.3 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 (โอนเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 66) 2.93 ล้านบาท

รวมจำนวนเงิน (3) 204.52 ล้านบาท

รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1) + (2) + (3) 4,372.72 ล้านบาท

ที่มา: กรมบัญชีกลาง