ขนส่งทางบก แนะวิธีเอาคะแนนคืน เมื่อโดนหัก

15 เม.ย. 2566 | 13:55 น.
อัปเดตล่าสุด :15 เม.ย. 2566 | 13:55 น.

ขนส่งทางบก แจ้งช่องทางเช็กคะแนน ความประพฤติขับรถ พร้อมแนะวิธีเอาคะแนนคืน เมื่อโดนหัก เตือนผู้ขับขี่ใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง ส่วนผู้ขับรถรวมถึงผู้โดยสาร ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งตลอดการเดินทาง

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกเปิดเผยว่า การใช้มาตรการเสริมสร้างวินัยการขับขี่ด้วยระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมานั้น จะมีส่วนช่วยให้ประชาชนขับขี่ด้วยความระมัดระวังและเคารพกฎหมายมากขึ้น จากปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญที่ก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก

ทั้งนี้ ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบคะแนนความประพฤติในการขับรถได้จาก 3 ช่องทางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่

  • เว็บไซต์ Police Ticket Management
  • E-Ticket PTM
  • แอปพลิเคชัน “ขับดี”

เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า ถูกตัดคะแนนจนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมเพื่อขอคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถได้ปีละ 2 ครั้ง ตามรอบปีปฏิทิน ณ กรมการขนส่งทางบก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (อาคาร 8) หรือ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด

ทั้งนี้ ให้จองคิวอบรมผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เมื่อผู้ขับขี่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กำหนดแล้ว ต้องเข้ารับการทดสอบและต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 60% จึงจะถือว่า ผ่านการอบรมและทดสอบ ถ้าไม่ผ่านสามารถแก้ตัวใหม่เป็นครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน

หากยังไม่ผ่านการทดสอบอีกจะออกใบนัดมาทำการทดสอบแก้ตัวใหม่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 7 วันนับแต่วันที่เข้ารับการทดสอบครั้งแรกไม่ผ่าน เมื่อผ่านการอบรมและการทดสอบแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะแจ้งผลการอบรมและการทดสอบ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการคืนคะแนนต่อไป

นอกจากการปฏิบัติตามกฎหมาย เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน

  • ผู้ขับขี่ ใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่เดินทางเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ตนเอง เช่น ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง และต้องเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)ซึ่งมีผลการศึกษาพบว่า การสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานจะช่วยลดระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บและช่วยป้องกันการสูญเสียชีวิต
  • ผู้ขับรถ รวมถึงผู้โดยสาร ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถโดยสารสาธารณะ ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งและตลอดการเดินทาง หากประสบอุบัติเหตุจะช่วยปกป้องร่างกายไม่ให้กระเด็นออกไปนอกตัวรถ ลดอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทก ปฏิบัติตามกฎจราจรและป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด เพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า เพราะหากจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางฉุกเฉิน จะได้มีระยะเวลาในการเปลี่ยนเส้นทาง ไม่เกิดการตัดหน้ารถคันอื่นในระยะกระชั้นชิด และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง