3 เม.ย. จับตา "ประกันรายได้ยางพารา" เคาะทีเดียว 2 งวดรวด
ยังไม่จบ “ประกันรายได้ยางพารา” เฟส 4 ลุ้น บอร์ด ธ.ก.ส.ไฟเขียวเงินกู้ 7.6 พันล้าน 29 มี.ค. เปิดไทม์ไลน์ คาดเคาะราคาครั้งเดียว 2 งวดรวดวันที่ 3 เม.ย.นี้ การันตี รับเงินก่อนสงกรานต์แน่นอน
โครงการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด ประกอบด้วย ข้าว ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และยางพารา เป็นโครงการที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง และเมื่อได้ร่วมเป็นรัฐบาล ได้ผลักดันโครงการประกันรายได้ถูกบรรจุให้เป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งโครงการประกันรายได้ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 4
สำหรับพืช ยางพารา ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้รับทราบ และให้เดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 4 วงเงินรวมกว่า 7.6 พันล้านบาท ตามมติ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติ (กนย.) วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 (คลิกอ่าน) ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบ นั้น
ล่าสุด นางสาวอธิวีณ์ แดงกนิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจยาง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้า “ประกันรายได้ยางพารา” เฟส 4 มีชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่กับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 จำนวนทั้งสิ้น 1,604,379 ราย (เจ้าของสวน ผู้เช่า ผู้ทำ 1,372,865 ราย และคนกรีดยาง 231,514 ราย) คิดเป็นพื้นที่ปลูกยาง รวม 18,183,764.59 ไร่
โดยแบ่งเป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว กำหนดราคาประกันผลผลิตยางแต่ละชนิด ดังนี้
-ยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม
-น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม
-ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัม
แบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวน ร้อยละ 60 และคนกรีด ร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด รายละไม่เกิน 25 ไร่ ระยะเวลาประกันรายได้ 2 เดือน (ตุลาคม – พฤศจิกายน 2565) งบประมาณโครงการฯ รวม 7,643,857,284.15 บาท
“วันที่ 29 มีนาคม นี้ คณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ บอร์ด ธ.ก.ส.จะมีการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ 7.6 พันล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยประกันรายได้ยางพารา เฟส 4 แล้ว และจะมีการเคาะราคาประกันรายได้ทีเดียว 2 งวดในวันที่ 3 เมษายน ซึ่งคาดว่าจะจ่ายเงินก่อนวันสงกรานต์” นางสาวอธิวีณ์ กล่าวย้ำ
อย่างไรก็ดี ทาง กยท. ยึดวันที่เกษตรกรชาวสวนยางพาราได้ยื่นขอขึ้นทะเบียน ที่จะเข้าโครงการ "ประกันรายได้" เฟส 4
1 ตรวจสอบความเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้วกับการยางแห่งประเทศไทย
https://www.raot.co.th/gir/index/
2.ตรวจสอบชื่อสกุลที่คุณขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทยต้องถูกต้อง 3.จะต้องมีบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. และชื่อบัญชีจะต้องเป็นชื่อเบิกจ่ายแค่บุคคลเดียว ชื่อสกุลจะต้องตรงกับรายชื่อสกุลที่ขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทย(หากชื่อสกุลไม่ตรงกันในส่วนของการยางแห่งประเทศไทย หรือข้อมูลไม่ตรงกับที่แจ้ง ให้ติดต่อกับการยางแห่งประเทศไทยสาขาที่ตั้งแปลง เพื่อแก้ไขด่วน )