4 ปี แก้ปัญหาไม่คืบ สวนปาล์มกระบี่ร้อง“ประวิตร”เร่งช่วยด่วน

นายพันศักดิ์  จิตรรัตน์ กรรมการในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ว่า  วันนี้ (20  มี.ค.66)ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์มจังหวัดกระบี่ ได้เข้าพบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กนป. และยื่นหนังสือข้อเรียกร้องใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ขอให้เร่งรัดการทำและการใช้โครงสร้างราคาปาล์มทะลายเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกร สืบเนื่องจากตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมติจากที่ประชุมให้มีการจัดทำโครงสร้างราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2561 และได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการโครงสร้างราคาฯให้ทำการศึกษาเรื่องโครงสร้างราคาฯดังกล่าว ในวันที่ 10 พ.ค. 2562 หลังจากมีมติจากที่ประชุม 1 ปีแล้วนั้น บัดนี้ล่วงเวลาเข้าเป็นปีที่ 4 แล้วเรื่องก็ยังไม่แล้วเสร็จ

ความล่าช้าด้วยเหตุทั้งปวงเป็นการผิดต่อเจตนาของพลเอกประวิตร ที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายฯ ที่มุ่งหวังให้เกษตรกรได้รับราคาปาล์มทะลายที่เป็นธรรมจากราคาตลาดของน้ำมันปาล์มและเมล็ดในปาล์ม ไม่ถูกฉวยโอกาสกดราคารับซื้อในช่วงเวลาที่ผลผลิตออกมาก เพื่อสร้างเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจปาล์มน้ำมันต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน 380,000 ครัวเรือน  โดยเกษตรกรทราบดีว่า ถ้ามีการใช้โครงสร้างราคาปาล์มทะลายที่ถูกต้อง เป็นธรรม เกษตรกรจะได้รับความเป็นธรรมทางด้านราคารับซื้อในปาล์มทุกกิโลกรัมที่เกษตรกรผลิต

ทั้งนี้ในการทำงานของคณะอนุกรรมการโครงสร้างราคาฯ ก็ไม่ได้ทำการสรุปเลือกสูตรให้ถูกต้อง ซึ่งสูตรสมการโครงสร้างราคาต้องถูกต้องตามหลักคณิตศาสตร์ และหลักการรับรู้รายได้ทางบัญชี มิฉะนั้นแล้ว สมการที่ตั้งขึ้นโดยผิดหลักสมการจะถูกเรียกว่า “อสมการ” หรือ INEQUALITIES  ถ้านำสมการที่ผิดไปใช้ ก็จะเสื่อมเสียเกียรติภูมิทางวิชาการต่อนานาประเทศปาล์มน้ำมันด้วยกัน และจะกระทบต่อเกียรติยศของท่านในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายฯ

ส่วนในตัวแปรค่าการผลิตนั้นการศึกษาจากการสอบถามตัวเลขจากผู้ประกอบการ ก็มีค่าการผลิตสูงกว่าประเทศปาล์มน้ำมันด้วยกัน 3-4 เท่าตัว เป็นการผลักภาระต้นทุนอุตสาหกรรมสูงเกินจริงให้อยู่กับเกษตรกร ไม่เทียบเคียงสมรรถนะ ต้นทุนการผลิตกับนานาประเทศปาล์มน้ำมันด้วยกัน การไม่มีโครงสร้างราคาปาล์มน้ำมันใช้กำกับราคาปาล์มทะลาย ทำให้กลุ่มโรงงานมุ่งการแข่งขันทางด้านปริมาณ ละเลยการทำงานทางด้านคุณภาพ ไม่ผ่านเกณฑ์ตามประกาศกำหนดคุณภาพปาล์มของกระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นความตกต่ำของอุตสาหกรรมปาล์มไทยในทรรศนะของประเทศผู้ผลิตปาล์มน้ำมันด้วยเช่นกัน

ดังเช่นกรณีล่าสุด เมื่อเดือน ม.ค.2566 มีสถานการณ์ปาล์มล้นโรงงาน ในขณะที่มีปาล์มทะลายผลิตออกมา 1,800,000 ตัน เกิดการเล่นเกม ราคาตกต่ำอย่างรุนแรง มีการรายงานราคาไม่ตรงกับราคาตลาด มีการกดราคารับซื้อลงไปที่ 13-14% เท่านั้น ราคารับซื้อที่ลดลงไป 1 บาทต่อกิโลกรัม มีผลกระทบต่อรายได้เกษตรกร 1,800 ล้านบาทต่อเดือน แต่ส่วนราชการที่ลงมาดูแล ก็รายงานไม่พบการกดราคาแต่อย่างใด ทางเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันตระหนักดีว่า หากมีการใช้โครงสร้างราคาที่ไม่เป็นธรรมจะทำให้การกดราคาปาล์มนั้นถูกกฎหมาย  แต่หากยังไม่มีการใช้โครงสร้างราคาปาล์มที่เป็นธรรม  ก็จะทำให้การกดราคาปาล์มนั้นไม่ผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน

เรื่องที่ 2. การบริหารปาล์มน้ำมันของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ มีผลในทิศทางบวกต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรมีการเปลี่ยนพืชอื่นเป็นปาล์มน้ำมัน ขยายพื้นที่ปลูก ปลูกทดแทน มีผลทำให้ต้นกล้าปาล์มน้ำมันขาดแคลนราคาสูง มีกล้าพันธ์ุปลอมระบาด มีเมล็ดพันธ์ุปลอมและราคาสูง ส่งผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้นขอให้มีการสนับสนุนงบประมาณต่อหน่วยงานวิจัยของรัฐในการผลิตเมล็ดพันธ์ุปาล์ม ต้นกล้าปาล์มอย่างเพียงพอ เพื่อลดปัญหาและสร้างสมดุลในระบบการผลิตต้นพันธ์ุปาล์มน้ำมันของประเทศไทย

เรื่องที่ 3. ขอให้เปิดเผยข้อมูลระบบมิเตอร์เรียลไทม์ของสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในภาพรวมของประเทศไทย ให้เกษตรกรได้รับทราบ เข้าดูข้อมูลได้เป็นรายวันตามเจตนาของการติดตั้งมิเตอร์ เพื่อให้ทราบสต๊อกเป็นรายวันเพื่อการเฝ้าติดตามปริมาณน้ำมันปาล์มดิบของทุกภาคส่วน และเกษตรกรทางกลุ่มเกษตรกรทราบถึงความก้าวหน้าของนโยบายต่าง ๆ ที่ทางคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมัน ดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อเกษตรกร มีความก้าวหน้ามาเป็นลำดับ

"มีความหวังว่าการดำเนินนโยบายภายใต้การนำของท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธาน กนป. จะสร้างความยั่งยืน และสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ดีให้กับทุกครัวเรือนเกษตรกร ซึ่งเป็นเจตนารมณ์หลักของท่าน  กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันหลายจังหวัด ขอร่วมเป็นแรงสนับสนุนให้ท่านได้ทำงานเพื่อชาวสวนปาล์มต่อไป ให้สำเร็จตามความตั้งใจของท่านทุกประการ จึงขอให้ท่านดำเนินการเร่งรัด ติดตาม ตามที่กล่าวมาข้างต้น"

หนังสือแนบข้อเรียกร้อง