น้ำมัน WTI เพิ่ม 1.07% ปิดที่ 80.33 ดอลล์ ขานรับดีมานด์น้ำมันจีนเพิ่ม

20 ม.ค. 2566 | 06:51 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ม.ค. 2566 | 06:57 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวกในวันพฤหัสบดี (19 ม.ค.) หลังมีรายงานว่าความต้องการใช้น้ำมันในจีนปรับตัวเพิ่ม และคาดการณ์อุปทานน้ำมันจะเผชิญภาวะตึงตัว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 1.07% ปิดที่ 80.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
         

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.39% ปิดที่ 86.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
         

ข้อมูลจากเว็บไซต์ขององค์กร Joint Organisations Data Initiative (JODI) ระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันในจีนพุ่งขึ้นเกือบ 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 15.41 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. 2565 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565
         

ทางด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า ตลาดพลังงานจะเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้นในปีนี้ อันเนื่องมาจากอุปสงค์พุ่งขึ้นจากการที่จีนเปิดประเทศ และอุปทานที่ลดลงจากการที่รัสเซียเผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐและชาติตะวันตก
         

ทั้งนี้ IEA คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันของรัสเซียจะลดลง 14% สู่ระดับ 9.6 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปี 2566
         

นอกจากนี้ IEA คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2566 สู่ระดับ 101.6 ล้านบาร์เรล/วัน โดยได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันจากจีนและอินเดีย
         

อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 8.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล          
         

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล