ยัน "แมนโคเซบ" สารสีฟ้า ในต้นหอม ไม่อันตรายต่อผู้บริโภค

18 ม.ค. 2566 | 12:00 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ม.ค. 2566 | 19:04 น.

“มนัญญา” แจ้งผลตรวจ"แมนโคเซบ" สารตกค้างสีฟ้าในต้นหอม ไม่อันตรายต่อผู้บริโภค ย้ำล้างทำความสะอาดก่อนนำไปบริโภค สั่งกรมวิชาการเกษตรแนะเกษตรกรใช้สารให้ปลอดภัย

นางสาวมนัญญา  ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าจากการที่ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเร่งตรวจสอบสารตกค้างสีฟ้าในตัวอย่างต้นหอมที่จำหน่ายในตลาดสี่มุมเมืองและรายงานให้ทราบโดยเร็วเพื่อคลายข้อกังวลต่อผู้บริโภคนั้น ในวันนี้ (18 มกราคม 2565) ได้รับรายงานจากนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ว่าผลการตรวจวิเคราะห์สารตกค้างในห้องปฏิบัติการด้วยเครื่อง GC-MS และเครื่อง Atomic Absorption Spectrometer (AAS) ของกองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร

 

ยัน \"แมนโคเซบ\" สารสีฟ้า ในต้นหอม ไม่อันตรายต่อผู้บริโภค

 

"พบสารแมนโคเซบ (mancozeb)ตกค้างประมาณ 2 mg/kg ซึ่งอยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่เกินค่ามาตรฐาน (EU MRL 3 mg/kg in leeks) เนื่องจากแมนโคเซบเป็นยาชนิดสัมผัสบริเวณผิว ไม่ใช่สารที่ดูดซึมเข้าในต้นหอม การล้างให้สะอาดโดยให้สารที่เคลือบออกหมดก่อนจำหน่ายหรือบริโภคจะทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับอันตราย"

 

ยัน \"แมนโคเซบ\" สารสีฟ้า ในต้นหอม ไม่อันตรายต่อผู้บริโภค

 

“แม้ผลการตรวจวิเคราะห์จะออกมาแล้วว่าปริมาณสารตกค้างไม่เป็นอันตรายแต่ก็ขอเน้นย้ำให้ทั้งผู้ค้าและผู้บริโภคล้างทำความสะอาดต้นหอม หรือพืชผัก ผลไม้ทุกชนิด เพื่อไม่ให้มีสารตกค้างปนเปื้อนก่อนนำไปจำหน่ายหรือนำไปบริโภค  พร้อมกับได้เน้นย้ำให้กรมวิชาการเกษตรเร่งสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรผู้ปลูกหอมใช้สารดังกล่าวในการป้องกันกำจัดเชื้อราให้ปลอดภัย หรือปลอดสารตกค้างต่อไป ที่สำคัญคือการใช้สารดังกล่าวในต้นหอมต้องเก็บเกี่ยวต้นหอมหลังจากพ่นครั้งสุดท้าย อย่างน้อย 15 วัน” นางสาวมนัญญา กล่าว