คลังลดภาษีดีเซล สูญรายได้แล้ว 1.5 แสนล้าน

17 ม.ค. 2566 | 13:30 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ม.ค. 2566 | 20:33 น.

รมช.คลัง เผยครม.ไฟเขียวลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 4 เดือน หั่นรายได้รวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท บรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน ยันไม่กระทบฐานนะการคลัง

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 4 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุด 20 ม.ค.66 เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน และเพื่อเป็นการพยุงราคาสินค้าต่างๆ ไม่ให้ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้กรมสรรพสามิตสูญรายได้กว่า 4 หมื่นล้านบาท

 

ทั้งนี้ การขยายเวลาลดภาษีน้ำมันรอบนี้ ถือเป็นครั้งที่ 6 แล้ว โดยหากรวมตั้งแต่ช่วงเดือนก.พ.65 จนถึงครั้งล่าสุด รัฐบาลสูญเสียรายได้จากการลดภาษีน้ำมันดีเซลไปแล้วกว่า 1.4-1.5 แสนล้านบาท

 

อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าการลดภาษีดังกล่าวไม่มีผลต่อฐานนะการคลัง เนื่องจากในปีงบประมาณ 2566 นี้ คลังมีรายได้เพิ่มเข้ามาจากกองทุนหมุนเวียนที่มีกำไรส่วนเกิน รวมเป็นเงินมากกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ทั้งจาก

  • การประมูลคลื่นความถี่โทรศัพท์เคลื่อนที่
  • การประมูลคลื่นวิทยุ
  • รายได้จากภาษีนำเข้ากรณีที่ศาลพิพากษา 

ขณะเดียวกัน ผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 สามารถจัดเก็บภาษีได้เกินเป้ากว่า 5.5 หมื่นล้านบาท และประเมินว่าสิ้นปีงบประมาณนี้จะสามารถจัดเก็บรายได้ได้สูงถึง 2.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายเอกสารงบประมาณ

“ในปีงบประมาณ 2566 มีการกู้ชดเชยขาดดุล 6.95 แสนล้านบาท ขณะที่งบประมาณรายจ่ายอยู่ที่ 3.1 ล้านล้านบาท คาดว่าสิ้นปีงบประมาณจะมีเงินคงคลังอยู่ 7.1 แสนล้านบาท ทำให้สถานะการคลังมีความมั่นคง และมีเงินสำรองในการใช้จ่ายของรัฐ ซึ่งการลดภาษีน้ำมันไม่ได้มีผลกระทบต่อภาระการคลัง”