คนไทยระทมรายจ่ายพุ่ง สินค้า-บริการขึ้นยกแผง

05 ม.ค. 2566 | 10:40 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ม.ค. 2566 | 18:49 น.

ชีวิตคนไทยปี 2566 เจอของแพงรายวัน เป็นหนี้แบงก์เจอโขกดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่ม จะออกบ้านไปเที่ยวต้องควักเพิ่มค่าตั๋ว-โรงแรม ทองขาขึ้น ลงทุนเข้าเร็ว-ออกเร็ว

โควิดคลาย คนไทยฉลองส่งท้ายปี 2565 รับปีใหม่ 2566 อย่างเต็มที่ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดจะมีเงินสะพัดกว่า 103,039 ล้านบาท ขยายตัว 20.1% เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี นับแต่ปี 2550 ที่ทะลุแสนล้านบาท ขณะที่รัฐบาลแข่งมอบสารพัดของขวัญให้ประชาชนในช่วงปีใหม่ แต่ของจริงตลอดทั้งปีนี้ คนไทยและภาคธุรกิจไทยจะมี “ชีวิตขาขึ้น”กันถ้วนหน้า

 

ค่าไฟขยับ-น้ำมันจ่อตาม

 

ไล่ตั้งแต่ค่าไฟฟ้า ที่แม้รัฐบาลจะตรึงค่าไฟ งวดรอบบิลเดือนม.ค.-เม.ย. 2566 สำหรับภาคครัวเรือนไว้ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย แต่ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ต้องแบกภาระถูกปรับขึ้นค่าไฟฟ้าตามค่า Ft เป็น 5.33 บาทต่อหน่วย (จากที่ต้องขึ้นจริง 5.69 บาทต่อหน่วย) ก่อนหน้านี้นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ออกมาย้ำ หากขึ้นค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเป็น 5.69 บาทต่อหน่วย จะส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าจะต้องปรับขึ้นราคาสินค้าจากเดิมอีก 5-12 % และที่ขึ้นไปอาจทำให้มีการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการไม่มากก็น้อย

มาที่ราคาแก๊สหุงต้ม แม้กระทรวงพลังงานยังคงตรึงราคาขายปลีกแก๊ส LPG (ถัง 15 กก.) ตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค.2566 ไว้ที่ 408 บาทต่อถัง แต่ส่งถึงบ้านจะบวกค่าส่งอีก 20 บาทต่อถัง ส่วนราคาน้ำมันทุกชนิดหลังปีใหม่ 2566 จะปรับตัวขึ้นลงตามราคาตลาดโลก ที่มีสัญญาณปรับขึ้นอีกในระยะต่อไป จากที่จีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก กลับมาเปิดเศรษฐกิจ

 

แบงก์พาเหรดขึ้นดอกเบี้ยกู้

 

ลูกหนี้แบงก์เตรียมควักกระเป๋าเพิ่ม ทันทีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประกาศสิ้นสุดมาตรการปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(FIDF) ให้กลับเข้าสู่อัตรา 0.46% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 หลังจากปรับลดเหลือ 0.23 % ในช่วงโควิด-19 ส่งผลธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทันที โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ นำร่อง ที่เฉลี่ย 0.40% มากกว่าอัตราปรับขึ้นของเงินนำส่ง FIDF จากนั้นแบงก์พาณิชย์อื่นก็ปรับตามถ้วนหน้า

คนไทยระทมรายจ่ายพุ่ง สินค้า-บริการขึ้นยกแผง

ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายยังเป็นขาขึ้น ตลาดคาดการณ์ว่า การประชุมครั้งแรกของปีวันที่ 25 ม.ค. 2566 กนง.จะยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เพื่อคุมเงินเฟ้อให้กลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมายภายในกลางปี 2566 อาจส่งผลให้ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ตามมาอีกระลอก

 

ของกินของใช้ต่อแถว

ขณะที่ของกินของใช้ที่ปรับขึ้นไปตั้งแต่ปี 2565 จากการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ที่กระทบทั้งการผลิต การขนส่งสินค้า ตลอดจนบรรจุภัณฑ์ และวัตถุดิบต่างๆ สินค้าหลายตัวต้องปรับราคาสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ ที่ปรับราคาขึ้น 1-2 บาทต่อขวด สุราขาว 4-6 บาทต่อขวด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 บาทต่อซอง ปลากระป๋อง 1 บาทต่อกระป๋อง รวมไปถึงนมพร้อมดื่ม น้ำอัดลม ผงซักฟอก ซอสปรุงรส ฯลฯ และแนวโน้มปี 2566 เมื่อยังเจอการปรับขึ้นค่าพลังงาน ทั้งค่าไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น น้ำอัดลม น้ำดื่ม ซอสปรุงรส ฯลฯ ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็มีแนวโน้มที่จะปรับราคาขึ้นอีก หากมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น

 

ขึ้นรถไฟฟ้าควักเพิ่ม

ด้านลูกค้ารถไฟฟ้าก็ควักเพิ่ม ตั้งแต่ 1 ม.ค.2566 โดยบีทีเอส(สายสีเขียว) ในเส้นทางสัมปทาน ทั้งสายสุขุมวิทและสีลม รวมถึงส่วนต่อขยาย จะปรับขึ้น 1 บาท จากราคา 16-44 บาท ปรับเป็น 17-47 บาท โดยยังต่ำกว่าเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดตามสัญญาสัมปทาน ซึ่งอยู่ในอัตรา 21.52-64.53 บาท
 เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีทอง ระยะที่ 1 (สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี-สำนักงานเขตคลองสาน) แจ้งปรับอัตราค่าโดยสาร 1 บาท เป็น 16 บาท ตลอดสาย โดยผู้สูงอายุสัญชาติไทย (60ปีขึ้นไป) และทหารผ่านศึก ได้อัตราลดหย่อนเดิมที่คนละ8 บาทตลอดสาย และยกเว้นสำหรับเด็ก(ไม่เกิน 90 เซนติเมตร) และคนพิการ

 

สายสีน้ำเงิน(MRT) หรือรถไฟใต้ดิน จะเริ่มปรับค่าโดยสารจาก 17-42 บาท เป็น 17-43 บาท โดยปรับขึ้น 1 บาท ตั้งแต่สถานีที่ 6 9 11 และ 12 เช่นเดียวกับสายสีม่วง ซึ่งตามสัญญาสัมปทาน บริษัท รถไฟฟ้าและทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีอีเอ็ม) ให้ปรับได้ต้้งแต่ก.ค.2565 แต่ตรึงไว้จนสิ้นปี

 

ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีแดง และแอร์พอร์ตเรลลิงก์ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟท.) ช่วยค่าครองชีพประชาชน ยังเก็บอัตราเดิมที่ 12-42 บาท และ15-45 บาท

 

“ตั๋วเครื่องบิน-ห้องพัก” พุ่ง

ส่วนจะไปเที่ยวให้สบายใจต้องจ่ายแพง นางสาวประชุม ตันติประเสริฐสุข ประธานฝ่ายการตลาด สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ปี 2566 คาดธุรกิจโรงแรมจะปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 7-12% จากต้นทุนสูงขึ้น รวมถึงเงินเฟ้อ หลังจากไม่ได้ปรับราคามากว่า 3 ปี เวลานี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โรงแรม 5 ดาวภูเก็ต ช่วงไฮซีซันตั้งราคา 9,000 -10,000 บาทต่อคืน ช่วงโลว์ซีซัน ก็ไม่ต่ำกว่า 4,000 บาทต่อคืน

 

ด้านนายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ราคาตั๋วเครื่องบินที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางในประเทศ เกิดจากต้นทุนน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มสูงขึ้น จาก 60-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มเป็น 100-150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล  เมื่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท. อนุญาตเมื่อปลายปี 2565 สายการบินต่างๆ จึงได้ขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมัน รวมในราคาตั๋ว แต่ก็เพียง 20% เท่านั้น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของสายการบิน ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศ มีแนวโน้มว่าค่าโดยสารปี 2566 จะปรับขึ้น เนื่องจากมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 87-88%

 

ทั้งนี้ ราคาตั๋วเครื่องบินที่ปรับขึ้นนี้ ยังอยู่ในเพดานค่าโดยสารตามหลักเกณฑ์ที่กพท.กำหนด โดยสายการบินต้นทุนต่ำไม่เกิน 9.40 บาทต่อกิโลเมตร และการบินฟูลเซอร์วิส อยู่ที่ไม่เกิน 13 บาทกิโลเมตร

 

ทอง “ขาขึ้น” รับโลกเสี่ยง

ด้านแนวโน้มราคาทองก็ยังเป็นขาขึ้น นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ชี้ว่า การลงทุนปี 2566 ยังคงมีความเสี่ยง จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ทองคำ ซึ่งเป็นทรัพย์สินปลอดภัย ปีนี้น่าลงทุน เพราะมีทิศทางขาขึ้นแบบ Sideways

 

ส่วนการเปิดประเทศของจีนเป็นไปได้ทั้งโอกาสและความเสี่ยง ทำให้มีความต้องการหลายด้านเพื่อกระตุ้นให้ฟื้นตัวชัดเจน เช่น ภาคอสังหาริมทรัพย์ ผลักดันให้สินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปี 2566 กลับทิศมาอ่อนค่า จากเงินทุนเคลื่อนย้ายมาลงทุนในตลาดเอเซียและตลาดเกิดใหม่ นักลงทุนควรถือทองคำไว้ในพอร์ตการลงทุนแต่อย่าชะล่าใจ เพื่อให้สามารถรองรับความเสี่ยงได้ในระยะข้างหน้า

 

หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่  42 ฉบับที่ 3,850 วันที่ 5-7 มกราคม พ.ศ.2566