ระเบิดรถไฟสงขลา"เอกชน"ย้ำอย่าให้เกิดซ้ำ

จากเหตุวางระเบิดขบวนรถไฟขบวนสินค้าเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565  ตามมาด้วยวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ก็เกิดเหตุระเบิดซ้ำใกล้ ๆ กัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 ราย

 

นายธนวัตน์ พูนศิลป์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เรื่องนี้ก็ได้มีการคุยกันในกลุ่มไลน์คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จังหวัดสงขลา ว่าเป็นเรื่องที่ต้องเข้มงวดและต้องระมัดระวัง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง จากตั้งแต่การเผาปั้มน้ำมันที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดบ้านพักตำรวจ ที่จ.นราธิวาส มาถึงระเบิดขบวนรถไฟขบวนสินค้าที่อ.สะเดา จ.สงขลา

 “ซึ่งลักษณะอย่างนี้ปล่อยให้เกิดอย่างนี้อีกไม่ได้ เพราะว่าเศรษฐกิจมันจะสั่นคลอน ตอนนี้ทุกคนผวา กลัวว่าถ้าเกิดขึ้นมาถึงหาดใหญ่ อะไรจะเกิดขึ้น หรือว่ามันต่อเนื่องขึ้นมาอีก มันก็ยิ่งแย่"

 

ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวต่อว่า เพราะว่าเศรษฐกิจเริ่มที่จะผหงกหัวหลังจากเปิดด่านฯ ทุกอย่างกำลังจะดี เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญก็คือ ฝ่ายความมั่นคงต้องกำชับเรื่องการข่าวให้ดี ต้องระมัดระวังมากขึ้น         โดยอาจจะประสานงานกับภาครัฐ ภาคเอกชน ในการช่วยกันดูแลพื้นที่ ตอนนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วนักธุรกิจกลัวมาก เป็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วง

“เพราะถ้ามันเกิดขึ้นมาได้ลักษณะอย่างนี้ โอกาสที่จะเกิดต่อไปก็จะมีขึ้นอีก สำหรับคนที่ทำ เพราะถือว่าทำแล้วจับไม่ได้ ทำแล้วก็มันทำให้เกิดผลกระทบ ก่อให้เกิดความหวาดกลัว”

 

ส่งที่จะต้องทำในขณะนี้ก็คือฝ่ายความมั่นคงเองก็เร็วในการดำเนินการในการระดมต่าง ๆ ทางจังหวัดเองก็พยายามประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันดูซึ่งเป็นเรื่องที่ดี  แต่จะต้องมีการเข้มงวดมากยิ่งขึ้น และกระจายไปยังทุกภาคส่วนเพื่อให้ช่วยกันดูแล แจ้งข่าว อะไร ต่าง ๆ  เพราะเหตุที่เกิดขึ้นล่าสุด ทำให้มีความรู้สึกว่าทำไมเกิดขึ้นง่ายเหลือเกิน 

นายสมพล  ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็มีบ้าง แต่ไม่มาก  แต่คาดว่าจะเป็นช่วงสั้น ๆ เท่านั้น

 

“มีกระทบนิดหน่อย ไม่ได้มีนัยสำคัญ โดยรวมสำหรับการท่องเที่ยวก็ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สำหรับการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา”
 

 

นายสมพล กล่าวและว่า สักระยะหนึ่งถ้าไม่มีอะไรทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม แม้ว่าทางประเทศมาเลเซียจะมีการออกข่าวเรื่องความไม่ปลอดภัยที่จะเข้ามาในพื้นที่บ้าง      

 

สิ่งที่จะทำได้ในขณะนี้ สำหรับภาคเอกชนก็คือการสื่อสารที่เป็นลักษณะภาพข่าวที่เป็นปกติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติครบ 10 ล้านคน ในวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ก็สามารถสื่อสารให้กับนักท่องเที่ยวเชื่อมั่นความปลอดภัยในพื้นที่

ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา กล่าวว่า ตอนนี้ผลกระทบหลัก ๆ ที่เห็นก็คือ เรื่องของความเชื่อมั่น เริ่มมีสอบถามเข้ามาบ้างแล้ว  เพราะปกติ บ้านท่าโพธิ์ กับมาเลเซียเขาไม่รู้จักหรอก แต่ที่เขาสอบถามมาก็คือ บางคนใช้คำว่าสงขลา บางคนใช้คำว่าสะเดา ซึ่งเป็นไปตามที่ปรากฏเป็นข่าวในมาเลเซีย

 

“ระยะยาวที่เราเป็นห่วงก็คือว่า จะต้องไม่มีเกิดเหตุอีกแล้ว ไม่งั้นความเชื่อมมั่นหนักแน่นอน การยกเลิกการจองห้องพักอาจจะมีให้เห็นมากขึ้น ตอนนี้ยกเลิกมีมั๊ย มีเลื่อนการเดินทางไป ส่วนหนึ่งขอเลื่อน ส่วนที่ยกเลิกก็มีนิดหน่อย ยังน้อย ยังไม่เยอะ”

 

ดร.สิทธิพงษ์ กล่าวและว่า โดยภาพรวมแล้วยังโอเคอยู่ แต่อย่าให้เกิดครั้งที่ 3 เท่านั้นเอง ถ้าเกิดมีครั้ง 3 หนักแน่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องทำก็คือ 1.เจ้าหน้าที่ต้องสร้างความมั่นใจ นั่นคือการควบคุมพื้นที่ก่อเหตุ 2.สร้างความมั่นใจให้กับคนที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลารู้สึกปลอดภัยเหมือนที่เขาเคยเดินทางมา

 

ฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการใน 2 มิติ คือ 1.เจ้าหน้าที่จะต้องมาอบรมผู้ประกอบการ กับ ชาวบ้าน ในการเฝ้าสังเกตยังไง ทำยังไง ดูอะไร ถ้าเจอแล้วขั้นตอน 1 2 3 4 ผู้ประกอบการจะต้องทำอย่างไร เพื่อให้ผู้ประกอบการไปดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ของตัวเอง  แล้วก็โชว์ตรงนี้ไปที่นักท่องเที่ยวว่า เราไม่ได้นิ่งเฉย เราทำ 
 

2.เจ้าหน้าที่ก็ต้องไปสร้างความมั่นใจในพื้นที่สาธารณะ เรื่องของจุดตรวจต่าง ๆ เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นสองฝั่งชนกันก็คือเอกชนดูพื้นที่ของตัวเอง เจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่สาธารณะ แล้วบอกก็บอกกับนักท่องเที่ยวว่านี่คือเราจะสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยให้กับท่าน

 

“อยากให้เน้นการสร้างความมั่นใจกับความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวว่ามาในพื้นที่ก็เริ่มมีการขยับกันบ้างแล้วในบางพื้นที่ อย่างที่หาดใหญ่ และสะเดา ส่วนฝ่ายความมั่นคงต้องไปควบคุมพื้นที่ไม่ให้ขยายวงเข้าในพื้นที่นี้ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ โดยเฉพาะหาดใหญ่ สะเดา เมืองสงขลา” นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา กล่าว