รายงานข่าว (6 ธ.ค. 2565) เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้จัดพิธีมอบรางวัล “โครงการซีพีเพื่อความยั่งยืน 2022” เพื่อยกย่องเชิดชูผู้บริหารและพนักงานเครือซีพีทั่วโลกที่ได้ทำโครงการต้นแบบด้านความยั่งยืน ช่วยแก้ปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ชุมชนและกลุ่มคนเปราะบางให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือฯ โดยมอบรางวัลให้แก่บุคคลต้นแบบที่ดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนจาก 10 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 122 โครงการ มีนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้มอบประกาศนียบัตร และมีผู้บริหารจากกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ร่วมแสดงความยินดี ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์ กรุงเทพฯ
โดยซีอีโอ เครือซีพีได้ยกย่องผู้บริหารและพนักงานกว่า 300 คนที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า เป็นบุคคลต้นแบบและเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนของเครือซีพี นอกจากนี้ซีอีโอเครือซีพียังประกาศให้ทุกกลุ่มรวมพลังนำองค์กรก้าวสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน โดยนอกจากเป้าหมายความยั่งยืนด้านการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 แล้ว ขอให้ทุกกลุ่มธุรกิจในเครือได้รวมพลังกันในการพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่มาเป็นพลังขับเคลื่อนความยั่งยืนให้กับประเทศไทยและโลกใบนี้
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้บริหารและพนักงานเครือซีพีทีได้รับรางวัลซีพีเพื่อความยั่งยืน และขอยกย่องให้เป็นฮีโร่หรือคนต้นแบบในการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนของเครือซีพี ตอกย้ำว่าเครือซีพีดำเนินธุรกิจใน 21 ประเทศทั่วโลกภายใต้หลักปรัชญา 3 ประโยชน์มาตลอดกว่าหนึ่งศตวรรษ และมีเป้าหมายความยั่งยืนสู่ปี 2030 ภายใต้ 3 เสาหลักคือ Heart : เศรษฐกิจ - Health : สังคม – Home : สิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นบริษัทแถวหน้าของโลกในด้านการความยั่งยืน ซึ่งมีความท้าทายคือการนำการเครือซีพีและทุกกลุ่มธุรกิจสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050
นอกจากนี้ นายศุภชัยได้ประกาศให้ทุกกลุ่มธุรกิจรวมพลังขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนเน้นหนักไปที่การพัฒนาด้านการศึกษา เพราะการศึกษาจะสร้างเด็กให้เป็นคนรุ่นใหม่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและทำให้การขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความยั่งยืนสำเร็จทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
ทั้งนี้ในปี 2023-2035 โลกจะเผชิญกับความท้าทายที่เป็นเมกะเทรนด์ใน 6 ด้าน ประกอบด้วย 1.ความเหลื่อมล้ำ 2. การเปลี่ยนสู่ดิจิทัลและพลังงาน 3.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4.ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง 5. โลก 2 ขั้วอำนาจ และ6.การเผชิญในเรื่องสุขภาพและโรคระบาดใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อโลก ดังนั้นการทำธุรกิจของเครือฯจะต้องคำนึงถึงความยั่งยืนให้เป็นเนื้อเดียวกับธุรกิจในทุกมิติทั้งสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงต้องได้รับความร่วมมือจากผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในการช่วยกันขับเคลื่อน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทางบวกและละนำพาองค์กรติดท็อป 20 องค์กรด้านความยั่งยืนของโลกให้ได้