เปิด 3 บิ๊กชาเลนจ์ชี้อนาคตกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือCRG

15 พ.ย. 2565 | 09:15 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2565 | 16:35 น.

CRG เร่งเครื่องบูสต์กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น ผ่าน 3 บิ๊กชาเลนจ์ เพิ่มเมนูRTE / RTC-ขยายสาขาฟอร์แมตใหม่และเปิดแบรนด์ใหม่ สูศึกตลาดร้านอาหารมูลค่า3.85 แสนล้านบาท

ข้อมูลจาก อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน Food & Hospitality Thailand 2022 ระบุว่าแนวโน้มธุรกิจบาร์และร้านอาหารว่า ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มที่ดีจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ภาครัฐผ่อนคลายให้ธุรกิจดำเนินการได้หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย สอดคล้องกับการคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารปี 2565 จะฟื้นตัวได้ 5.4% มูลค่ารวมประมาณ 3.85 แสนล้านบาท

CRG ชู 3 บิ๊กชาเลนจ์ชี้อนาคตกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น

หากรวมมูลค่าตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะสูงถึง 270,000 ล้านบาท และหากการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเป็นปกติมากขึ้นตลาดก็ยังเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกซึ่งมีความเป็นไปได้มากจากเป้าหมายการดึงนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนของ ททท.

นายธีรวัฒน์ เลิศถิรพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่ม Japanese Cuisine บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ “ซีอาร์จี” เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากการปรับตัวของผู้บริโภคที่กลับมาดำเนินชีวิตใกล้เคียงปกติ ในขณะที่เชนร้านอาหารรายใหญ่เริ่มลงทุนในการเร่งขยายสาขามากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการเร่งขยายพอร์ตโฟลิโอ ประกอบกับในปัจจุบันร้านอาหารมีหลายเซ็กเมนต์ จึงทำให้มีผู้ประกอบการแบรนด์ใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้มีการแข่งขันสูงขึ้น 

นายธีรวัฒน์ เลิศถิรพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่ม Japanese Cuisine

รวมทั้งเซกเมนต์ร้านอาหารญี่ปุ่นดึง ซึ่ง CRG ได้วางกลยุทธ์ที่เป็นบิ๊กชาเลนจ์ของปี ไว้ 3 ด้านเพื่อ ยกเครื่องกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วย 6 แบรนด์ อาทิ เปปเปอร์ ลันช์ (Pepper Lunch), ชาบูตง ราเมน (Chabuton), โยชิโนยะ (Yoshinoya), โอโตยะ (Ootoya), เทนยะ (Tenya) และ คัตสึยะ (Katsuya)

 

สำหรับบิ๊กชาเลนจ์ของกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือ CRG ประกอบไปด้วย

 

1 พัฒนาเมนูใหม่ ๆ ทั้งสินค้าพร้อมทานและสินค้าพร้อมปรุง (RTE / RTC)

โดยเพิ่มความวาไรตี้ทางด้านเมนูเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ ทุกกลุ่มอายุ และทุกไลฟ์สไตล์  รวมทั้งเพิ่มไลน์สินค้าในกลุ่ม premium เพื่อเพิ่มทางเลือกและเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันจะพัฒนาและต่อยอดเมนู สินค้าอาหารพร้อมทาน และสินค้าอาหารพร้อมปรุง (Ready to eat / Ready to cook)เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน (RTE) ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มเติบโตตามการขยายตัวของร้านค้า ประกอบกับการขยายตัวของชุมชนเมืองที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเน้นการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบและต้องการความสะดวกสบาย สามารถซื้อทานหรือทำทานเองได้ที่บ้าน

เปิด 3 บิ๊กชาเลนจ์ชี้อนาคตกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือCRG

2 รุกหาลูกค้า เดินหน้าเปิดสาขาใหม่ด้วย New Format / New Sale Model

โดยจะขยายสาขาเพิ่มในหลากหลายโมเดล ทั้งที่เป็นโมเดลร้านขนาดเล็ก และในรูปแบบ Hybrid Cloud รวมถึงยังเน้นการมองหาพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อให้สามารขยายสาขาได้คล่องตัว และครอบคลุมพื้นที่ และรองรับธุรกิจเดลิเวอรี่ เพื่อเร่งสร้างยอดขาย และตอบเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค โดยปัจจุบันกลุ่มธุรกิจอาหารญี่ปุ่นมีจำนวนสาขารวม 211 สาขา (ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 65)  โดยในจำนวนนี้เป็นร้านแบบ Hybrid Cloud จำนวน 16  สาขา แบ่งเป็นสัดส่วนในกทม 68% และต่างจังหวัด 32%

เปิด 3 บิ๊กชาเลนจ์ชี้อนาคตกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือCRG

3 เปิดแบรนด์ใหม่เติมพอร์ตสร้างความแข็งแกร่ง ด้วยราเมนระดับ Top 3  เปิดตัวแบรนด์ “ราเมน คาเก็ตสึ อาราชิ (Ramen Kagetsu Arashi)” เนื่องจากมี Brand Character ที่ชัดเจน  มีเมนูที่หลากหลายและน่าสนใจในเรื่องของความเป็น product innovation ประกอบกับทิศทางการขยายตัวของอาหารเอเชียในไทยที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทมั่นใจว่า ราเมน คาเก็ตสึ อาราชิ  มีโอกาสในตลาดประเทศไทย และสามารถสร้างการเติบโต และความแข็งแกร่งให้กับGRGได้ สำหรับแผนการขยายสาขาตั้งเป้าเปิด 1 สาขาภายในปี 2565 และ เปิดเพิ่มอีก 5 สาขา ภายในปี 2566 

  เปิด 3 บิ๊กชาเลนจ์ชี้อนาคตกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือCRG

นอกจากนี้ CRG ยังมีแผนการขยาย Category อื่น ๆ ที่ยังไม่มีในพอร์ตโฟลิโอเพิ่มเติมอีกด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งจะเป็นแบรนด์ระดับ Top  ในขณะเดียวกันยังเดินหน้าปั้น Virtual Brand นำร่องด้วยแบรนด์ คาโคมิ (Kakomi) กับชุดเบนโตะย่างถ่านสไตล์ญี่ปุ่น ในราคาที่เข้าถึงได้

 

และความเคลื่อนไหวสุดท้ายของปีนี้คือ การส่งแคมเปญใหญ่กระตุ้นตลาดในช่วงปลายปี กับแคมเปญ “ฉลองครบรอบ 16 ปี เปปเปอร์ ลันช์”กับคอนเซปต์ “อัพความสุข อัพความอร่อย” (Happy Up! Yummy Up!) โดยนำเกมส์ และกิจกรรมส่งตรงมาจากสิงค์โปร์ มาให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก และยังจำลองร้านเปปเปอร์ ลันช์ ให้ลูกค้าได้มาร่วมถ่ายรูป และร่วมกิจกรรม ณ พื้นที่ลานกิจกรรมบริเวณทางลาด BTS ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน รวมทั้งอัพไซส์ 3 เมนูซิกเนเจอร์ อาทิ ข้าวเปปเปอร์เนื้อ (U.S.Beef), ข้าวเปปเปอร์หมู และ ข้าวเปปเปอร์ไก่ พร้อมกับLucky Drawn ลุ้นรับรางวัลใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 200,000 อีกด้วย

เปิด 3 บิ๊กชาเลนจ์ชี้อนาคตกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือCRG

ทั้งนี้ด้วยกลยุทธ์ทั้งหมดผู้บริหารมองว่า ปี 2565 กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นจะสามารถสร้างการเติบโตมากกว่า 35%