"เนชั่น"เพิ่มทุน 730 ล้าน ขับเคลื่อน One Nation

14 พ.ย. 2565 | 22:18 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2565 | 05:26 น.
591

เนชั่น ประกาศเพิ่มทุน 10,847 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม 1 ต่อ 2 ราคา 0.09 บาท พ่วงแจกวอร์แรนท์ NATION-W4 ฟรี 2,711 ล้านหน่วย คาดระดมทุนได้ไม่ต่ำกว่า 730 ล้านบาท หวังขยายธุรกิจ เงินทุนหมุนเวียน ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 29 ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ NATION มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 507,547,903.09 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 2,663,572,194.95 บาท เป็นจำนวน 2,156,024,291.86 บาท ด้วยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย จำนวน  957,637,553 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 0.53 บาท

 

จากนั้นคณะกรรมการมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 5,749,398,111.45 บาท จากทุนจดทะเบียน 2,156,024,291.86 บาท เป็น 7,905,422,403.31 บาท โดยการออกหุ้นเพิ่มทุน 10,847,920,965 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.53 บาท โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม 8,135,940,724 หุ้น และรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ NATION ครั้งที่ 4 (NATION-W4) จำนวน 2,711,980,241 หุ้น

 

บริษัทจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 8,135,940,724 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาขายหุ้นละ 0.09 บาท โดยกำหนดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 19-20 และ 23-25 มกราคม 2566 และมีมติให้จัดสรร NATION-W4 จำนวน 2,711,980,241 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ใช้สิทธิเพิ่มทุนในอัตรา 3 หุ้นเพิ่มทุนต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย โดยมีอัตราใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญ ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 0.25 บาท อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี
 

บริษัทกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 เพื่อพิจารณามติการเพิ่มทุนดังกล่าว ในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 เวลา 14.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-meeting) และกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 7 ธันวาคม 2565


สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน บริษัทจะนำเงินทุนที่คาดว่าจะได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ประมาณ 732 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สัดส่วน 28% ชำระหนี้เงินกู้ สัดส่วน 29% และลงทุนเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดในธุรกิจหลักที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งเงื่อนไขการลงทุนเป็นไปตามกรอบนโยบายการลงทุนของบริษัทฯ ในช่วงเวลานั้นๆ สัดส่วน 43% ทั้งการเข้าซื้อหุ้น หรือ เข้าซื้อธุรกิจ หรือ ลักษณะอื่นใดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ข้อกำหนด รวมถึงกฎเกณฑ์ของหน่วยงานที่กำกับดูแล

 

นาย ฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ NATION เปิดเผยว่า “การเพิ่มทุนบริษัทฯ ในครั้งนี้ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง และเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์ One Nation”  โดยปัจจุบันสื่อในเครือเนชั่นกรุ๊ป ประกอบไปด้วย กรุงเทพธุรกิจ เนชั่นทีวี โพสต์ทูเดย์ เนชั่นออนไลน์ คมชัดลึก สปริงออนไลน์ ไทยนิวส์ เดอะเนชั่น โอเคเนชั่น ขอบสนาม และ เดอะพีเพิ่ล

 

“ด้วยศักยภาพและจุดแข็งของเครือเนชั่น เรามุ่งมั่นจะผนึกสื่อในเครือเพื่อสร้าง Synergy ในการบริหารจัดการ เดินหน้าไปอย่างมั่นคง ควบคู่ไปกับการผลิตข้อมูลข่าวสารที่เป็นสาระประโยชน์ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยยึดมั่นบนหลักจริยธรรมการทำหน้าที่สื่ออย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน” นาย ฉาย  กล่าวทิ้งท้าย

นาย ฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

สำหรับประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับจากการเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน บริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่เกิน 65% ของกำไรสุทธิ แต่ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุน ความจำเป็น และความเหมาะสมในอนาคต ซึ่งผู้ถือหุ้นที่ใช้สิทธิเพิ่มทุนจะได้รับ ส่วนผู้ถือหุ้นที่ไม่ใช้สิทธิจองซื้อตามสัดส่วนการถือหุ้นจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมลดลง (Dilution Effect) ราว 66.67% และจากการใช้สิทธิของ NATION-W4 จำนวน 18.18%

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับจากการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท กับผลกระทบต่อส่วนแบ่งกำไรหรือสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้นหรือกำไรต่อหุ้น คณะกรรมการเห็นว่า การเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้ประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นมากกว่าผลกระทบต่อส่วนแบ่งกำไรหรือสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้นหรือกำไรต่อหุ้น