SCM ขยายฐานธุรกิจ แตกไลน์ลิสซิ่ง-คอนเซาท์

11 ส.ค. 2565 | 18:32 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ส.ค. 2565 | 01:33 น.

SCM ชี้ทิศธุรกิจครึ่งปีหลังส่งสัญญาณดี เหตุปัจจัยหนุนเพียบ เตรียมล้อนซ์โพรดักซ์แฟลกชิพ เจาะกลุ่ม ซิลเวอร์เอจ-นิช มาร์เก็ต ก่อนเดินหน้าลุยธุรกิจลิสซิ่ง-คอนเซาท์ ทั้งในและต่างประเทศ

นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ (“SCM”) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ผลการดำเนินงานปรับตัวในทิศทางเชิงบวก โดยไตรมาส 1 มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 269 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2 บริษัทเน้นทำตลาดเชิงรุกควบคู่ไปกับการขยายฐานสมาชิกเพิ่มเติม รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริมการขาย ทำให้รายได้เติบโตเพิ่มขึ้น

           

“ปีนี้เซ็กเม้นต์ที่โฟกัสเป็นพิเศษคือสินค้าเกษตรและกลุ่มซิลเวอร์เอจ 50+ ขึ้นไป ทั้งน้ำผลไม้ ฟื้นฟูเซลล์ให้แข็งแรงสร้างภูมิต้านทานสู้ภัยโควิด และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับไม่มีคุณภาพเจาะตลาดกลุ่มอายุ 40+”

 

สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมองว่ายังคงมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากภาพรวมของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัว และมีโมเมนตัม ในทิศทางที่ดีขึ้นเนื่องจากช่วงไตรมาส 3- 4 ของทุกปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ จึงส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัท

SCM ขยายฐานธุรกิจ แตกไลน์ลิสซิ่ง-คอนเซาท์

นอกจากนี้ยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่และผลิตภัณฑ์ทดแทน (Product Replacement) อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารกำจัดวัชพืชและเพิ่มฮอร์โมนพืช, ครีมบำรุงผิวหน้า Brightening, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการนอนหลับ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงในปีนี้ ซึ่งคาดว่าในปีนี้บริษัทจะมียอดขายโดยรวมเติบโตขึ้น 20%

           

“ครึ่งปีหลังจะมีอัตราการเติบโตที่แรงกว่าครึ่งปีแรกด้วยปัจจัยหนุนหลายๆ อย่าง ทั้งฐานสมาชิกที่จะมีการเติบโตขึ้น จากปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นไตรมาสละ 1 หมื่นราย แต่ครึ่งปีหลังตั้งเป้าว่าจะเติบโต 5 หมื่นรายจากเดิมที่ตอนนี้มีอยู่ 1.2 แสนราย นอกจากนี้บริษัทจะพัฒนากลุ่มคนที่เจาะตลาด Niche Market ได้ รวมถึงการใช้ celebrity เป็นตัวผลักดันสินค้า ตอนนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกรวมถึงการขยายตลาดส่งออกผ่านดีลเลอร์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ด้วย”

           

ขณะที่ “ธุรกิจลิสซิ่ง” ภายใต้ “บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด” ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัทได้ดีเวลลอปเพื่อทำธุรกิจการให้บริการสินเชื่อประเภทเช่าซื้อ จำนำทะเบียนรถและจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะสามารถเริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนส.ค. นี้ โดยช่วงแรกจะเจาะกลุ่มเครือข่ายสมาชิกของบริษัทเป็นหลัก

SCM ขยายฐานธุรกิจ แตกไลน์ลิสซิ่ง-คอนเซาท์

หลังจากนั้นบริษัทมีแผนเตรียมขยายการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าทั่วไปโดยให้เครือข่ายสมาชิกเป็นผู้แนะนำกับลูกค้าต่อไป โดยบริษัทตั้งเป้าการขยายพอร์ตปล่อยสินเชื่อ ภายในระยะเวลา 3 ปี (2565-2567) 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้ จะสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มสมาชิกและกลุ่มลูกค้าทั่วไปได้ประมาณ 50-100 ล้านบาท

           

“การลงทุนใน “ธุรกิจลิสซิ่ง” เป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ของ SCM บริษัทมองว่าธุรกิจดังกล่าวจะสามารถรองรับความต้องการเงินทุนของกลุ่มสมาชิก MLM ที่มีอยู่กว่าในปัจจุบัน 1.6 แสนราย เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ รวมไปถึงการใช้เงินเพื่อการอุปโภคบริโภค ขณะเดียวกัน “ธุรกิจลิสซิ่ง” เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเติบโตดังกล่าวส่งผลให้บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจลิสซิ่ง เข้ามาเฉลี่ย 10% ต่อปีของรายได้รวมในปีหน้าและปรับเพิ่มสูงขึ้นในปีถัดไป

           

ธุรกิจในพอร์ตตอนนี้มีโรงงานและลิสซิ่งกำลังจะเริ่มต้นกับอีกธุรกิจหนึ่ง คือ ธุรกิจการคอนเซาท์การบริหารงานของดีลเลอร์การพัฒนาบุคลากรให้กับดีลเลอร์ใน 6 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา, สปป. ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, สิงคโปร์, มาเลเซีย และจะขยายไปยัง ฟิลิปปินส์ โดยบริษัททำหน้าที่คอนเซาท์กับพัฒนาระบบ network marketing และพัฒนาคนให้เป็นเทรนเนอร์ ซึ่งมีพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมพูดคุยกันหลายราย”

 

หน้า 16  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,808 วันที่ 11 - 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565