ตลาดผลิตภัณฑ์ "แม่และเด็ก"เนื้อหอม นายทุนดาหน้าเข้าตลาดคึก

29 ก.ค. 2565 | 20:46 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ค. 2565 | 03:57 น.
1.6 k

มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กเติบโตต่อเนื่อง แตะ 40,300 ล้านบาท แรงหนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศดึงผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนในตลาดประเทศไทย

นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด ตัวแทน โคโลญเมสเซ่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก คือหนึ่งในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยผลลัพธ์ที่มาจากพฤติกรรมของพ่อแม่ยุคใหม่ ที่วางแผนการใช้จ่ายตั้งแต่ก่อนมีบุตรและยังให้ความสำคัญกับคุณภาพ สวัสดิการ ผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ มากกว่าเรื่องราคา

 

ประกอบกับมีกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าอื่น อาทิ โรงเรียน ศูนย์ดูแลเด็ก โรงพยาบาล คลินิก เป็นต้น ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 40,300 ล้านบาท (ธนาคารกรุงเทพ, 2564) เปิดกว้างให้ผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนในตลาดประเทศไทย

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หนึ่งในแนวโน้มที่น่าจับตามองในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือ การนำเข้า-ส่งออกด้านผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก ซึ่งนับตั้งแต่ปีนี้ ถึงปี 2569 คาดว่า ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) กว่าร้อยละ 7.69 อย่างต่อเนื่อง และมีขนาดตลาดกว่า 47.71 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.68 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 59 เทียบกับปี 2562 ที่ผ่านมา

นางอุไรวรรณ บุนนาค นายกสมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สมาคมจึงมุ่งเน้นผลักดันและสนับสนุน เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว ด้วยการเริ่มหาช่องทางการตลาดและสร้างโอกาสให้กับสมาชิกฯ สำหรับปี 2566 อาทิ การเข้าร่วมงานทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น และเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกให้มีแนวคิดการออกแบบของเล่นนำเทรนด์ ด้วยการจัดการอบรมการออกแบบของเล่นเพื่อพัฒนาให้เกิดนักออกแบบรุ่นใหม่อยู่เสมอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นำไปสู่การรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของเล่นที่ยอมรับกันทั่วโลก ตลอดจนการส่งมอบสินค้าตามกำหนดเวลา เพื่อรักษาฐานลูกค้าและครองตลาดต่อไป

 

นายแมทธิว เวซโซซี กรรมการบริหาร สมาคมเอเชีย ทอย แอนด์ เพลย์ เปิดเผยว่า ทางสมาคมเล็งเห็นถึงโอกาสสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ของเล่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอาเซียน โดยปัจจุบันมีความท้าทายมากมายที่ต้องร่วมกันเผชิญ จำเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทของเล่นทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กทั้งในและต่างประเทศ จะต้องวางเป้าหมายสู่การเผชิญหน้าเพื่อบรรลุสิ่งที่เราต้องการ นั่นคือรอยยิ้มของเด็ก ๆ เมื่อพวกเขาสามารถเล่นกับของเล่นชิ้นใหม่ได้!

 

ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นของตลาดผลิตภัณฑ์แม่และเด็กในประเทศไทย พร้อมนำทัพด้วยบริษัทชั้นนำ อาทิ บริษัท ร็อคกิงคิดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล, บริษัท แปลนทอยส์, บริษัท เอิร์ท ดีไซน์ (เบบี้ โมบี้), บริษัท ทีแมน ฟาร์มา (ไฟเบอร์เมท), บริษัท มาเธอร์กูส ประเทศไทย, บริษัท โฮโย ประเทศไทย, บริษัท บีซี ลิงค์, และบริษัท ตรัยนรโชติ (แบโลจี้) ตลอดจนสมาชิกอีกมากมายจากสมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย ที่ยืนยันการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ทางโคโลญเมสเซ่มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมสร้างธุรกิจอย่างยิ่งใหญ่สู่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์แม่และเด็กในปี 2566 โดยประมาณการณ์ยอดผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,000 รายทั่วภูมิภาคฯ และยอดผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 200 บริษัททั่วโลก ซึ่ง ณ ตอนนี้ได้รับการตอบรับจากทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และอิตาลี คาดว่ามีมูลค่าการซื้อขายในการเจรจาทางธุรกิจไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท พร้อมบรรลุวัตถุประสงค์ ในการสร้างศักยภาพให้ตลาดผลิตภัณฑ์แม่และเด็กในภูมิภาคฯ ให้เติบโตไปอีกขั้น