‘ข้าวมาบุญครอง’ ชี้ตลาดข้าวทรงตัว ดึงนวัตกรรมเพิ่มทางเลือกผู้บริโภค

30 ก.ค. 2565 | 07:55 น.

“ข้าวมาบุญครอง” ชี้ภาพรวมตลาดข้าวถุงทรงตัว ราคายังไม่ขยับขึ้น แม้ต้นทุนชาวนาพุ่ง เชื่อผลผลิตในฤดูกาลใหม่ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้น เตรียมบุกตลาดข้าวเพื่อสุขภาพ ดึงข้าวชนิดใหม่เสริมพอร์ต พร้อมปั๊มยอดขายจากกลุ่มศูนย์อาหาร- Riverdale Marina ท่องเที่ยวริมแม่น้ำ

นายสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พี อาร์ จี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่าย “ข้าวมาบุญครอง” เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดข้าวถุงไทยมีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยทิศทางตลาดข้าวถุงปีนี้คาดว่าจะ “ทรงตัว” ได้ในระยะยาว หลังจากในปีที่ผ่านมาราคาต้นทุนสูงขึ้น ผู้ประกอบการต้องแบกรับต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายและตรึงราคา แต่เมื่อมีผลผลิตใหม่ออกมา เชื่อว่าจะช่วยชดเชยต้นทุนที่แบกรับมาตลอดทั้งปีได้

              

“มูลค่าตลาดข้าวถุงมีแนวโน้มขึ้นๆลงๆ เพราะวัตถุดิบที่ใช้คือข้าวซึ่งเป็นสินค้าคอมมูนิตี้ ส่วนปริมาณค่อนข้างทรงตัวโดยปริมาณการบริโภคลดลงบ้าง ใน 20 ปีที่ผ่านมาจากที่เคยบริโภค 120 กิโลกรัม/คน/ปีเหลือเพียง 78 กิโลกรัม/คน/ปี แต่ปริมาณการใช้ในอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นปริมาณการใช้ในประเทศค่อนข้างทรงตัว”

สมเกียรติ มรรคยาธร               

สำหรับข้าวมาบุญครองยังไม่ปรับราคาขายขึ้นแต่อย่างใด และในปีนี้บริษัทจะโฟกัสธุรกิจข้าวถุงใน 2 เซกเมนต์คือ ข้าวหอมมะลิแท้และข้าวเพื่อสุขภาพ โดยจะพยายามสร้างสินค้านวัตกรรมเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นข้าวเพื่อสุขภาพข้าวหอมปทุม และข้าวกล้องงอก โดยปีนี้บริษัทตั้งโจทย์ในการหาข้าวชนิดอื่นๆหรือผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยยืดหรือชะลออาการเบาหวาน ความดัน หรือโรคอื่นๆเพื่อให้สุขภาพผู้บริโภคดีต่อไป

 

“ข้าวมาบุญครองเน้นคุณภาพที่สม่ำเสมอและเน้นความบริสุทธิ์ของข้าว โดยการันตรีและตรวจสอบได้ว่าเป็นข้าวหอมมะลิแท้ นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยี packaging ที่ชะลออายุไขของข้าวเพื่อให้คุณภาพที่สม่ำเสมอ ซึ่งปัจจุบันเราใช้นวัตกรรมวาล์ว-ล็อค มาใช้ในบรรจุภัณฑ์ข้าวเพื่อกักเก็บความหอม และคุณภาพความสดใหม่ของข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดูที่รักษาความสดใหม่ของข้าวได้ตลอดทั้งปี”

‘ข้าวมาบุญครอง’ ชี้ตลาดข้าวทรงตัว  ดึงนวัตกรรมเพิ่มทางเลือกผู้บริโภค               

ด้านแผนการตลาดเน้นสื่อสารให้ผู้บริโภคสามารถเลือกข้าวให้ถูกชนิดและถูกกับไลฟ์สไตล์ของทุกคนโดยเฉพาะข้าวกินอร่อยและข้าวเพื่อสุขภาพ ซึ่งในเซกเมนต์ข้าวเพื่อสุขภาพปัจุบัน ข้าวมาบุญครองมีมาร์เก็ตแชร์ค่อนข้างดีโดยเฉพาะข้าวไรซ์เบอรี่ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดอยู่มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 40%

 

นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะนำข้าวพื้นนุ่มมาทำตลาดในประเทศ แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการปูพื้นฐานก่อน นอกจากนี้ยังเตรียมงบทำการตลาดและโปรโมชั่นราว 30-40 ล้านบาท หลังจากที่ห่างหายไปนาน โดยมี “แท่ง-ศักดิสิทธิ์ แท่งทอง” เป็นแอมบาสเดอร์คนแรกของแบรนด์ พร้อมทำกิจกรรมและแคมเปญพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 44 ปี ของข้าวมาบุญครอง ตลอดทั้งปีนี้

              

“รายได้ปีนี้คาดว่าจะทรงตัวเพราะช่วงต้นปีไม่ดี แต่คาดว่าจะมีรายได้จากการขายในประเทศ 1,200 ล้านบาท และที่เหลืออีก 35% หรือราว 500-600 ล้านบาทจะเป็นการขายในต่างประเทศ”

              

สำหรับผลประกอบการของกลุ่ม PRG ในปีนี้จะมีรายได้รวมกว่า 2,000 ล้านบาท มาจากธุรกิจข้าว 70-80% ธุรกิจศูนย์อาหาร 15-20% และรายได้อื่นๆ จากการลงทุนจะเป็นเอ็กซ์ตร้า ซึ่งบริษัทมีแผนต่อยอดไปใน new segment อาทิ ศูนย์อาหาร ใน MBK, สามย่านมิตรทาวน์และเดอะไนน์ติวานนท์ รวมถึงสาขาอื่นๆที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต, Riverdale Marina ท่าเรือท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นต้น

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,804 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565