TKN แง้ม MAJOR ซื้อหุ้นเพิ่ม 27.6 ล้านหุ้นไม่กระทบโครงสร้างธุรกิจ

31 มี.ค. 2565 | 12:24 น.
อัปเดตล่าสุด :31 มี.ค. 2565 | 19:51 น.

TKN แจงกลุ่ม MAJOR เข้าลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มอีก 27.6 ล้านหุ้น คิดเป็น 2% ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการและนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทเตรียมหารือ MAJOR ทำ Synergy เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ

หลังจาก บริษัทเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ได้ถือหุ้น บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) จำนวน 69,000,000 หุ้น  ซึ่งถือเป็นการถือหุ้นใน TKN เท่ากับ 5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ TKN ด้วยเม็ดเงินกว่า 540 ล้านบาท เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 

TKN แง้ม MAJOR ซื้อหุ้นเพิ่ม 27.6 ล้านหุ้นไม่กระทบโครงสร้างธุรกิจ

ล่าสุด MAJOR ได้เพิ่มการลงทุนเข้าซื้อหุ้น บริษัทเถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)เพิ่มอีกจำนวน 27.6 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2% ซึ่งรวมกับหุ้นเดิมส่งผลทำให้ MAJOR เข้าถือหุ้นในบริษัทฯ 7% 

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในปีนี้ของ TKN มั่นใจว่าจะผลักดันการเติบโตที่ดี โดยจะคงมุ่งรักษาความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์สาหร่ายทะเลแปรรูปภายใต้แบรนด์ ‘เถ้าแก่น้อย’ ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ 

 

ประกอบกับความสามารถด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสนับสนุนการเติบโตของการดำเนินงานและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ทำให้ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (MAJOR) ได้เพิ่มการลงทุนเข้าซื้อหุ้น TKN เพิ่มอีกจำนวน 27.6 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2% ซึ่งรวมกับหุ้นเดิมส่งผลทำให้ MAJOR เข้าถือหุ้นในบริษัทฯ 7% 

ซึ่งการเข้าลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นการผนึกกำลังเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TKN  คือ กลุ่มพีระเดชาพันธ์ ยังถือครองหุ้นมากกว่า 50 % และไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการและนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด 

 

สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการเข้าถือหุ้นดังกล่าว นับว่าต่างก็ได้รับประโยชน์ทั้งคู่ ถือเป็นการสร้างการเติบโตของธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ช่วยขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของทั้งสองบริษัทฯ ออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ที่ TKN มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งอยู่ในจีนและสหรัฐอเมริกา  

 

“เราได้มีการพูดคุยตั้งแต่ที่ MAJOR ได้เข้ามาลงทุนในช่วงแรก ซึ่งมองว่าอาจมีการ Synergy ร่วมกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง เพราะด้วยศักยภาพ และความเชี่ยวชาญของแต่ละบริษัทฯ ที่จะมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน อีกทั้งการที่ MAJOR มี Media Marketing ที่หลากหลาย และเข้มแข็ง จะช่วยให้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะช่วยสร้างการเติบโตได้อย่างแน่นอน”