ทุบ "โรงแรมนารายณ์"กลางปีนี้ทุ่ม 1 หมื่นล้าน ผุด 2 โรงแรมแลนด์มาร์กใหม่สีลม

นายนที นิธิวาสิน กรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ โฮเต็ล จำกัด ทายาทรุ่น 3 ตระกูลนิธิวาสิน เปิดเผยว่า หลังจากโรงแรมนารายณ์ สีลม ได้ปิดการให้บริการไปเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ล่าสุดในช่วงกลางปีนี้ นารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เตรียมจะทุบโรงแรมนารายณ์ และโรงแรมทริปเปิ้ล ทู ซึ่งอยู่ในพื้นที่ติดกัน เพื่อสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางสีลม โดยจะใช้งบลงทุนราว 8,000 ล้านบาท-10,000 ล้านบาท ในการพัฒนาพื้นที่รวมกว่า 6 ไร่ เพื่อปรับโฉมใหม่

 

 

ทั้งนี้หลังจากทุบโรงแรมนี้ ก็จะพัฒนาโมเดลใหม่ในพื้นที่นี้ สู่ "โรงแรมนารายณ์โฉมใหม่" โดยจะสร้างโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 2 แห่ง และบริการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

• โรงแรมนารายณ์ ขนาด 200 ห้อง ที่อาจจะดึงพันธมิตรเชนจากต่างประเทศเข้ามาบริหาร ซึ่งจะมีห้องพัก 200 ห้อง ภายใต้คอนเซ็ปต์ entry level luxury with Selected Service ซึ่งจะเป็นโรงแรมระดับไฮบริด ที่มีบริการเหมือนลูกผสมระหว่างโรงแรม4 ดาวและโรงแรม 5 ดาว 

 

• โรงแรมระดับลักชัวรี 6 ดาว ขนาด 100-150 ห้อง บริการแบบฟูลเซอร์วิส ที่อยู่ระดับเจรจากับแบรนด์โรงแรมแรมเข้ามาบริหาร ซึ่งจะเป็นระดับเดียวกับโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล หรือ โฟร์ซีซั่นส์

 

• การสร้างสวนบนพื้นที่ราว 7,000 ตารางเมตร พร้อมคลองขุดเชื่อมระหว่าง 2 โรงแรม เพื่อเปิดให้เป็นพื้นที่สีเขียวให้คนทั่วไปเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจได้ด้วย รวมถึงการอัญเชิญองค์พระนารายณ์ที่อยู่ชั้นบนของโรงแรมนารายณ์ ลงมาประดิษฐาน  เพื่อให้คนทั่วไปได้สักการะด้วย

 

• พื้นที่ซึ่งจะเปิดให้แม่ค้าพ่อค้า ร้านอาหารเล็กที่ขายอาหารขึ้นชื่อในย่านนี้มาเช่าพื้นที่เพื่อขายสินค้าได้ด้วยในราคาที่เขาอยู่ได้ ราคาย่อมเยา เพราะนับวันตึกแถวในย่านนี้ก็จะถูกไล่ที่ เราอยากให้ร้านอาหารชื่อดังในย่านนี้ยังคงอยู่ต่อไป ซึ่งเป็นเสน่ห์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยจะมีทั้งร้านอาหารระดับสตรีทฟู้ดไปถึงร้านอาหารมิชลิน สตาร์ สร้างความหลากหลายของเมนูอาหารในราคาตั้งแต่ระดับ 100 บาทไปจนถึงราคาระดับมิชลิน

• ห้องสัมมนารองรับได้ 2-3 พันคน

 

โครงการโรงแรมนารายณ์โฉมใหม่ จะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2569 โดยเราจะเน้นการก่อสร้างโรงแรม สูงไม่เกิน 20 ชั้น ซึ่งจริงๆเราคิดโครงการนี้ไว้ตั้งแต่ ปี2560 ก่อนเกิดโควิด-19 ด้วยซ้ำ เพราะด้วยความที่ตึกของโรงแรมนารายณ์อายุกว่า 54 ปีแล้ว การซ่อมแซมระบบต่างๆทำนิดทำหน่อยก็มีปัญหา จึงถึงเวลาต้องทุบทำใหม่ และพัฒนาให้เติบโตขึ้น ประกอบกับเกิดโควิด ก็เป็นโอกาสเหมาะสมในการเดินหน้าลงทุน

 

คอนเซ็ปต์การพัฒนานารายณ์โฉมใหม่จะเน้นตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในอดีตลูกค้าที่เข้ามาพักโรงแรมนารายณ์จะเป็นกรุ๊ปทัวร์ ขายห้องพักราคา 1,000-2,000 พันบาท ส่วนโรงแรมทริปเปิ้ล ทู จะขายอยู่ที่2,500-3,000 บาท แต่โรงแรมนารายณ์ใหม่ที่จะสร้างขึ้น จะขายห้องพักราว 5,000 บาท ส่วนโรงแรมระดับ 6 ดาว จะขายในระดับเดียวกับโอเรียลเต็ล และโฟร์ซีซั่นส์

 

เพราะลูกค้าจะเป็นกลุ่มที่เล็กลง การเดินทางเพื่อธุรกิจ หรือ ครอบครัว และการให้บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งนักท่องเที่ยวจะชอบการออกไปหาประสบการณ์จุดเด่นต่างๆในพื้นที่ชุมชนใกล้โรงแรมเพิ่มมากขึ้น

 

ดังนั้นการพัฒนาโครงการเราจึงเน้นแนวคิดใหม่ในการลงทุน เพื่อให้รองรับคนได้หลายเจเนอเรชั่น เน้นให้เป็นในลักษณะอินคลูซีฟ ที่จะเปิดให้คนในทุกแวดวงเข้ามาใช้บริการได้ ไม่ใช่แค่ต้องมาพักในโรงแรมเท่านั้น

 

การดำเนินการสร้างโรงแรมใหม่ จะดำเนินการภายใต้มาตรการด้านความปลอดภัย“ทุบ-เคลียร์-ปรับ-วาง-สร้าง”

 

• ทุบ : ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

 

• เคลียร์:พื้นที่ให้กระทบกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบให้น้อยที่สุด

 

• ปรับ : ปรับพื้นที่เพื่อรองรับการก่อสร้าง วาง : วางรากฐาน ระบบเสาเข็มที่มั่นคง

 

• สร้าง : เริ่มต้นการก่อสร้าง โดยกำหนดระยะเวลาก่อสร้างราว 4 ปี ในส่วนของกลยุทธ์ด้านการตลาด เพื่อสอดรับกับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  “โรงแรมนารายณ์ยุคใหม่” ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่เกิดขึ้น เราจำเป็นต้องเปลี่ยนตามยุคสมัย โดยกลุ่มตลาดลักชัวรี่  เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เราอยากจะไปให้ถึงจุดนั้น เรามั่นใจว่าจะเป็นอีกแผนพัฒนาพื้นที่ที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ ให้ย่านสีลมได้ก้าวไปสู่ความทันสมัยได้อย่างไม่ยากนัก

 

เราตั้งใจทำให้เกิดคอมนูนิตี้ ดึงชุมชน ให้คนทุกกลุ่มได้เข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่ สอดรับกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย เสริมศักยภาพด้านธุรกิจในกรุงเทพฯ พร้อมดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ให้พื้นที่แห่งนี้ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ทางนารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ ยังอยู่ระหว่างเตรียมรีโนเวท โรงแรมฮอลิเดย์ อินท์ ไม้ขาว ภูเก็ต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรงแรมในเครือ ที่เปิดให้บริการมากว่า 10 ปี  ที่จะปรับโฉมใหม่เช่นกัน รวมถึงการขยายแบรนด์หลับดี ซึ่งเป็นโรงแรมในสไตล์โฮสเทล และการสร้างแบรนด์ใหม่ “มาราสก้า โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต”ที่จะเป็นโรงแรมสไตล์แคชชัล ลักชัวรี ที่จะเปิดให้บริการแห่งแรกที่เขาใหญ่