ซี-วิท ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีมูลค่า 4.5 พันล้านบาท 59.4%

28 มี.ค. 2565 | 17:05 น.
อัปเดตล่าสุด :29 มี.ค. 2565 | 05:02 น.
2.6 k

ซี-วิท (C-vitt) ขึ้นแท่นผู้นำตลาดเครื่องดื่มวิตามินซี ครองส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีมูลค่า 4.5 พันล้านบาทกว่า 59.4% พร้อมเดินเครื่องรุกตลาด 2565 ผ่านกลุยทธ์ Data-Driven Marketing สร้างฐานลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียล

ซี-วิท (C-vitt) ฉลองความสำเร็จขึ้นแท่นผู้นำตลาดเครื่องดื่มวิตามินซี ยอดขายตลอดระยะเวลา 10 ปี รวมกว่า 1.2 พันล้านขวด จากเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคใส่ใจ Work-Life Balance และดูแลสุขภาพมากขึ้น

ซี-วิท ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีมูลค่า 4.5 พันล้านบาท 59.4%

พร้อมรุกตลาดปี 2565 ด้วยกลุยทธ์ Data-Driven Marketing เจาะอินไซต์สร้างฐานลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียล ปรับแพคเกจเน้นความทันสมัย เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ และขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุม

พร้อมอัดแคมเปญเฉลิมฉลองตอบแทนผู้บริโภค ทั้งรูปแบบออนไลน์และออนกราวน์ เพื่อสร้างคอมมิวนิตี้สังคมสุขภาพดี ส่งเสริมคนไทยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและสุขภาพจิตที่ดี ตอกย้ำการเป็นแบรนด์เครื่องดื่มวิตามินซี อันดับ 1 ในใจผู้บริโภค

 

นายชิฮิโระ คุราตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮ้าส์ เวลเนส ฟู้ดส์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น บริษัทผู้คิดค้นและพัฒนาเครื่องดื่ม ซี-วิท (C-vitt) กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ ซี-วิท (C-vitt) เป็นเครื่องดื่มวิตามินซีที่ได้รับการพัฒนามาจากแบรนด์ C1000 ซึ่งเป็นเครื่องดื่มวิตามินซีที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเครื่องดื่มวิตามินซีอื่น ๆ ที่บริษัทเป็นผู้บุกเบิกและมีประสบการณ์มามากกว่า 60 ปี ในประเทศไทย ซี-วิทถือเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดเครื่องดื่ม Functional Drink

ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา และเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นและนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มวิตามินซี 200% ออกมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ประกอบกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีรสชาติอร่อย ดื่มง่าย ถูกปากคนไทย ส่งผลให้ ซี-วิท ครองแชมป์มาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีมีมูลค่ากว่า 4.5 พันล้านบาท ในปี พ.ศ. 2564 ซึ่งซี-วิทครองส่วนแบ่งตลาดที่ 59.4%

 

นอกจากนี้แล้ว ในยุคที่ผู้บริโภคเป็นผู้ค้นหาข้อมูล แบรนด์ที่มีคุณภาพและไม่หยุดพัฒนาจะเป็นแบรนด์ที่อยู่รอดในตลาด เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ ซี-วิท ที่มีการค้นคว้าและวิจัยในเรื่องคุณภาพตามมาตรฐานประเทศญี่ปุ่น และได้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ ภายใต้แนวคิดเพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ (Healthy Body & Mind) ออกมานำเสนอให้ผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้แบรนด์เป็นที่ต้องการของตลาด

 

โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายรวมไม่ต่ำกว่า 1.2 พันล้านขวด นอกจากความสำเร็จดังกล่าวนี้ ซี-วิท เตรียมเร่งขยายไปยังตลาดในแถบประเทศภูมิภาคอาเซียนซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคสูง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมสุขภาพดีในวงกว้างสืบเนื่องต่อไป”

 

นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม ซี-วิท (C-vitt) ในประเทศไทย กล่าวว่า “โอสถสภาร่วมสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ซี-วิทในประเทศไทยมาตลอด 10 ปี โดยดูแลการผลิตและจัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายช่องทางการขายที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ นอกจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซี-วิทก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีในประเทศไทยคือความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค และสามารถตอบความต้องการเหล่านั้นได้อย่างตรงจุด ควบคู่ไปกับการมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและการรักษาคุณภาพสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง

 

ในปี พ.ศ.2565 นี้โอสถสภามองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวและดูแลสุขภาพมากขึ้น หลังจากที่ต้องเผชิญกับมลพิษ อาทิ ฝุ่น PM 2.5 รวมไปถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงได้เตรียมทำการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่ดี (Healthy Body & Mind)

 

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น นอกจากจะวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เกต และร้านค้าชั้นนำทั่วไปแล้ว ยังได้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายบนแพลทฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งส่งสินค้าตรงถึงบ้าน ช่วยให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น”

 

ส่วน  โอซามุ โซมะ ประธานบริหาร บริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ ซี-วิท (C-vitt) และผู้ดำเนินกิจกรรมทางการตลาดในประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ จะขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ Data-Driven Marketing ด้วยการดึงอินไซต์หรือข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค มาใช้เป็นข้อมูลในการจัดกิจกรรมทางการตลาดรวมถึงการสื่อสารและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

 

ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบรูปลักษณ์หรือแพคเกจใหม่ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น การเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้

 

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาส 10 ปี แห่งความสำเร็จ และขอบคุณบริโภคชาวไทยที่ให้การตอบรับผลิตภัณฑ์ซี-วิท ด้วยดีมาโดยตลอด ซี-วิท ยังได้เตรียมแคมเปญ CRM (Customer Relationship Management) สร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่

 

โดยแบ่งออกเป็น Online Activity การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ผ่าน C-vitt Line Official Account และคอนเทนท์เพื่อสร้างสังคมสุขภาพดีผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ของซี-วิท และ On-Ground Activity รูปแบบกิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์การมีสุขภาพที่ดีทั้งด้านจิตใจและร่างกาย โดยคาดว่าจะจัดขึ้นภายหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19