"ตลาดความงาม"คึก เมื่อเครื่องสำอางไม่จำกัดเพศ"ชายแท้" จับจ่ายสูง

24 มี.ค. 2565 | 13:52 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มี.ค. 2565 | 21:37 น.
514

ตลาดความงาม กลับมาคึกคักหลังชายแท้แคร์บุคลิกภาพมากขึ้นยอมควักกระเป๋าจับจ่ายสินค้ากลุ่ม รองพื้น อายไลน์เนอร์ ดินสอเขียนคิ้ว เพิ่มสูงขึ้น สอดรับเทรนด์ “บิวตี้บีสต์” คนเจ้าสำอางยุคใหม่ไร้ขีดจำกัดทางเพศ

ตลาดความงาม ส่งสัญญาณฟื้นตัวหลังประชาชนกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ขณะที่นิยามไม่จำกัดเฉพาะผู้หญิงหลังชายแท้หันมาให้ความสนใจกับบุคลิกภาพและจับจ่ายเครื่องสำอางที่ เดิม ถูกผลิตมาเพื่อรองรับตลาดผู้หญิงโดยเฉพาะ กลุ่ม รองพื้น อายไลน์เนอร์ ดินสอเขียนคิ้ว ที่กลายเป็นสินค้ายอดนิยมสูงสุด

"ตลาดความงาม"คึกเมื่อเครื่องสำอางไม่จำกัดเพศ "ชายแท้"จับจ่ายสูง

ทั้งนี้บริษัท ไอ-ดีเอซี แบงค็อก จับมือกับ เอ็มไอ กรุ๊ป ในฐานะ Digital Marketing Agency และ Media Agency ได้เปิดเผยผลการสำรวจที่น่าสนใจ พบปัจจุบันกระแส ‘gender-neutral’ หรือการไม่จำกัดเพศ ได้เปลี่ยนทัศนคติต่อหนุ่มสาวยุคใหม่ที่มีต่อความสวยความงามเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเพศชายที่หันมาให้ความสนใจการพัฒนาบุคลิกภาพ และเลือกใช้เครื่องสำอางในหลากหลายประเภท

นางสาวสุชาดา สุภาการ Head of Digital Strategic Planning บริษัท ไอ-ดีเอซี แบงค็อก จำกัด เปิดเผยว่า
ทัศนคติและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมปัจจุบันมีวิวัฒนาการในเรื่องการใส่ใจดูแลตนเองอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่ขณะนี้ได้หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องภาพลักษณ์ ความสวยงาม และไลฟ์สไตล์ที่ต้องดูดีอยู่เสมอ รวมไปถึงกระแส ‘gender-neutral’ หรือการไม่จำกัดเพศที่ได้เปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคหนุ่มสาวยุคใหม่ที่มีต่อความงามซึ่งได้มองถึงสินค้าหรือบริการด้านความสวยงามว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานในการใช้ชีวิตประจำวัน

 


 ล่าสุดจึงได้ทำความร่วมมือกับ บริษัท เอ็มไอ กรุ๊ป เพื่อทำการสำรวจทัศนคติและพฤติกรรม กลุ่ม “Beauty Beasts” หรือหนุ่มสาวยุคใหม่ที่หลงใหลในเรื่องความสวยความงาม  และต้องการปรับบุคลิกภาพของตนเองให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งพบว่า กลุ่ม Male Beasts ที่ขณะนี้ให้ความสำคัญในการดูแลตนเอง รวมไปถึงการทำให้ตนเองดูดีขึ้นจากการใช้เครื่องสำอางผู้หญิง โดยบางคนสามารถพัฒนาตนเองจนเป็นผู้เชี่ยวชาญมากกว่าผู้หญิงบางกลุ่ม

 

และยังพบว่ากลุ่ม Male Beasts เริ่มสนใจแต่งหน้าตั้งแต่วัยมัธยม ใช้เครื่องสำอางผู้หญิงแต่งหน้าโดยเฉลี่ยถึง 9.3 ชนิดอยู่เป็นประจำ โดยมากถึง 78% ใช้รองพื้น 65%ใช้อายไลน์เนอร์ และ 56% ใช้ดินสอเขียนคิ้ว นอกจากนี้ยังได้ทราบถึงความเห็นอีกว่า 78% ของ Male Beasts เห็นด้วยว่า การใช้เครื่องสำอางเพราะการดูแลลุคของตนเองเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตนเอง

 

ซึ่งไม่ต่างจาก 81% ของ Female Beasts ที่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว และมองว่าการใช้เครื่องสำอางคือการพัฒนาตนเองเช่นเดียวกัน สะท้อนให้เห็นว่าค่านิยมในการดูแลตนเองไม่ใช่แค่เรื่องของเพศหญิง หรือเพศใดเพศหนึ่งอีกต่อไป 

 

สำหรับนักการตลาดและแบรนด์สินค้าที่ต้องการเข้าถึงกลุ่ม Beauty Beast ต้องเน้นการสื่อสารเรื่องความสวยความงามที่เป็นกลางไม่แบ่งแยกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะผู้หญิงหรือผู้ชายเท่านั้น ชูประโยชน์ที่ได้รับนอกเหนือการจากใช้ผลิตภัณฑ์ว่าสามารถพัฒนาตัวตนหรือบุคลิกภาพของกลุ่ม Beauty Beasts ได้

 

อีกทั้งต้องสื่อสาร - ทำกิจกรรมทางการตลาดผ่านทาง Beauty Bloggers ทั้งหญิงและชายในช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น IG Stories หรือ Tik Tok อย่างสม่ำเสมอ และสุดท้ายแบรนด์ควรมีช่องทางการขายผ่านทั้งทางจุดจำหน่ายตามห้างร้านค้า และทาง e-commerce

 

เนื่องจากแต่ละช่องทางมีจุดเด่นในการกระตุ้นให้เกิดการซื้อที่ต่างกันคือ จุดจำหน่ายตามห้างมีบทบาทในการสร้างประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ออนไลน์มีบทบาทในด้านการใช้โปรโมชั่นและสามารถเข้าถึงได้ทุกที่

 

"เมื่อพูดถึงความงามเมื่อก่อนเราจะพูดถึงผู้หญิงเพราะผู้หญิงใส่ใจในเรื่องของความสวยความงามมาก  beauty brand ก็มักจะใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เป็นผู้หญิงเพื่อสื่อสารหรือสร้างความสัมพันธ์ด้วยกันกับผู้หญิงเอง



แต่บริบทโลกตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ผู้ชายสมัยนี้ไม่ธรรมดา ทุกวันนี้เครื่องสำอางไม่ได้เจาะจงสื่อสารไปยังผู้หญิงอย่างเดียวแต่สื่อสารทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปแล้วและความสวยความงามของผู้ชายกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นเทรนที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย



จากผลสำรวจของเราผู้บริโภคของคนในประเทศไทยทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็มองว่าเป็นเรื่องปกติมากที่ผู้ชายแท้จะใช้เครื่องสำอางผู้หญิงและรู้สึกดีเมื่อแบรนด์เครื่องสำอางใช้ผู้ชายเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเครื่องสำอางผู้หญิงและเขาไม่เขินที่จะเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางผู้หญิงหรือเลือกซื้อตามร้านและsupermarket"

 

ทางด้าน นางสาววรินทร์ ทินประภา Chief Strategy Officer เอ็มไอ กรุ๊ป ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของช่องทางการสื่อสาร โดยในส่วนของสื่อออฟไลน์ต่อกลุ่ม Beauty Beasts พบว่า ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้ ทำให้สินค้าและแบรนด์เป็นมีรู้จักและจดจำได้ดี โดยบทบาทของแต่ละช่องทางมีความแตกต่างกัน

  • 64% ให้ความเห็นว่าสื่อทีวีช่วยให้ได้รู้จักแบรนด์หรือสินค้าใหม่ ๆ
  • 42% เผยว่าสื่อนอกบ้าน (Out of Home) ทำให้จดจำแบรนด์หรือสินค้าต่างๆได้ดียิ่งขึ้น สื่อ ณ จุดขาย
  • 37% เห็นด้วยว่าช่วยกระตุ้นให้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ทันที
  • 37% เห็นด้วยว่า ทำให้จดจำแบรนด์หรือสินค้าต่าง ๆ ได้ดีจึงเหมาะกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ต้องการสร้างการรับรู้และทำให้สินค้าหรือแบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

 

ในส่วนบทบาทของสื่อออนไลน์ต่อกลุ่ม Beauty Beasts ก็เช่นกันโดยเฉพาะในปัจจุบัน โซเชี่ยลมีเดีย มีหลากหลายแพลตฟอร์มให้ผู้บริโภคใช้เพิ่มมากขึ้น พบว่า

  • 75% ใช้ Facebook เป็นช่องทางให้การอัพเดตข้อมูลข่าวสาร
  • 55% ใช้ Line เพื่อติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้างและซื้อสินค้า
  • 55% ใช้ YouTube ในการค้นหาไอเดีย และเพื่อความบันเทิง  66%มีประสบการณ์ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าทันทีผ่าน Facebook Messenger
  •  44% ใช้Instagram  เป็นพื้นที่ในการหาแรงบันดาลใจและสร้างคอนเทนท์ของตัวเอง
  • 51%เคยมีส่วนร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ บน TikTok และใช้ TikTok เพื่อความบันเทิง
  • 59% ใช้Twitterเพื่อสื่อสาร ติดตามไอดอล หรือเซเลบริตี้ต่าง ๆ เพื่อรู้สึกใกล้ชิดกับบุคคลที่เขาชื่นชอบมากขึ้น