ไทยวา ทุ่มอีก 2 พันล้าน ลงทุนนวัตกรรมความยั่งยืน

01 มี.ค. 2565 | 08:20 น.
อัปเดตล่าสุด :01 มี.ค. 2565 | 17:19 น.

ไทยวา ประกาศความสำเร็จปี 2564 ทำยอดขายกว่า 9,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากปี 2563 พร้อมทุ่มอีก 2,000 ล้าน ลงทุนนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ความยั่งยืน ไบโอพลาสติกและอื่นๆ ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคอาเซียน

นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน)  หรือ TWPC กล่าวว่า ในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องด้วยเลข 2 หลัก รวมถึงมีอีบิทด้า (EBITDA) เพิ่มขึ้น 70% จาก 571 ล้านบาทเป็น 969 ล้านบาท ส่งผลให้คณะกรรมการได้อนุมัติเงินปันผลในอัตรา 0.2159 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าทั้งหมด 190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปี 2563 ซึ่งจะนำเสนอในที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า

ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นตรากิเลนคู่

ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2564 ถือว่าแข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับใช้นวัตกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การบริหารการขายและการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใ้งบลงทุนไปกว่า 2,000 ล้านบาทตลอดช่วง  5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 9,105 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 4,422 ล้านบาท หรือ 49% รายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) 2,910 ล้านบาท หรือ 32% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,767 ล้านบาท หรือ 19% โดยมีสัดส่วนรายได้จากในประเทศคิดเป็น 83% และรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 17% เรายังคงมุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับลูกค้าทั้งในรูปแบบ B2B และ B2C ทั่วโลก ผ่านแบรนด์ มังกรคู่ กิเลนคู่ และโรส อย่างต่อเนื่อง

สำหรับการทำตลาดในต่างประเทศ ปัจจุบันไทยวาได้ทำการส่งออกสินค้าไปแล้วทั่วโลก โดยมีโรงงานและสำนักงานทั้งหมด 15 แห่ง ตั้งอยู่ในประเทศไทย 9 แห่ง ประเทศเวียดนาม 3 แห่ง และยังมีสำนักงานตั้งอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศกัมพูชา และประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป้าหมายของบริษัทฯ คือการก้าวเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ตั้งเป้าเพิ่มรายได้เป็น 10,000 ล้านบาทในปี 2565

ผลิตภณฑ์วุ้นเส้นตรามังกรคู่

เนื่องจากในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯ ได้ลงทุนในเรื่องการพัฒนาความสามารถของบุคคลากรในสาธารณรัฐประชาชนจีน เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย ทำให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งคาดว่าแนวโน้มการส่งออกในปีนี้จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถขยายฐานลูกค้าส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ นอกจากจีนและไต้หวันได้ เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 เราจะมุ่งเน้นไปในการขับเคลื่อนธุรกิจที่มีความยั่งยืน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าที่ทางบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ระดับสากล นอกจากนี้บริษัทฯ มีการต่อยอดธุรกิจ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ หรือไบโอพลาสติก ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งผลิตมาจากแป้งมันสำปะหลัง และสามารถนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ เช่น ภาชนะบรรจุอาหาร บรรจุภัณฑ์ พลาสติกคลุมดิน ฯลฯ ในปีนี้เรามีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่เพิ่มอีก 8-10 รายการ เช่นผลิตภัณฑ์ส่วนผสมที่ปราศจากกลูเตน (gluten free) และโซลูชั่นด้านอาหาร

 

ในปีนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ผ่านไทยวาเวนเจอร์ (Thai Wah Ventures) จุดประสงค์เพื่อลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัป หรือธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เพื่อต่อยอดและพัฒนาสินค้าเกษตร ที่สามารถช่วยเสริมการเติบโตของธุรกิจหลักได้ ครอบคลุมทั้ง 4 ด้านที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นวัตกรรมด้านฟาร์มและเทคโนโลยีการเกษตร การวิเคราะห์ข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทานสำหรับธุรกิจในรูปแบบ B2B พลาสติกชีวภาพและการจัดการของเสียจากกระบวนการผลิต และส่วนผสมในอาหารและเทคโนโลยีการแปรรูปแบบใหม่ๆ

ผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติก

บริษัทฯ ได้เตรียมเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจใหม่ผ่านการควบรวมกิจการ ภายในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้ธุรกิจในเครือของบริษัทฯ ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยไทยวาเวนเจอร์ มุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมเกษตรและอาหารสำหรับลูกค้าในรูปแบบ B2B เจ้าแรก ที่เชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก และในปี 2565 บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังเวียดนาม กัมพูชา และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

ไทยวา ยังมุ่งที่จะขยายตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายฐานการผลิตและการส่งออก รวมถึงการขยายฐานผู้บริโภคให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ผ่านนวัตกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ทั้งนี้เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน สร้างความมั่นคงทางอาหารและความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการสร้างคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ในปี 2564 เราสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโตต่อไปได้อีกในปี 2565 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เป็นปีที่เราครบรอบ 75 ปี และยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของไทยวา